ก้อย เปิดใจเรื่องราวความรักที่เพิ่งผ่านมา สื่อสารน้อยจนรักพัง

ก้อย เปิดใจเรื่องราวความรักที่เพิ่งผ่านมา สื่อสารน้อยจนรักพัง รักครั้งต่อไปไม่เข็ดแต่ไม่รีบ อยากสบายๆ จะได้เป็นพื้นที่ปลอดภัยของเรา
เมื่อสาวสามคนเก่ง ก้อย & นัตตี้ & ดรีม ได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ได้มาเปิดเรื่องราวในชีวิต พร้อมและเผยความรักแบบทุกซอกทุกมุมในใจ เพราะอุ่นใจที่ได้มานั่งคุยมานั่งเล่าที่นี่เป็นที่แรก ก้อย เปิดหมดใจกับเรื่องราวความรักที่เพิ่งผ่านมา เพราะตัวเองใช้โหมดข้ามปัญหา สื่อสารน้อยจนรักพัง

ตอนนั้น ก้อย ยังไม่ได้คุยกับเพื่อนใช่ไหม
ก้อย : ใช่ค่ะ เหมือนรอเวลาแป๊บนึง เหมือนเราชาๆ นิ่งๆ อยู่กับตัวเองสักพักหนึ่ง จนสะระตะได้แต่คือวันเดียวกันนะคะ ก็เลยค่อยๆ พิมว่า เลิกนะ เพื่อนก็เป็นห่วงแต่แบบเราสไตล์เดียวกัน คือเรารับรู้ว่าเขาอยู่ข้างๆ ไม่ได้แบบว่าแกเป็นอะไรไหมมันไม่ใช่แบบนั้น
เอาจริงๆ ทั้งสองคนรู้ว่าจริงแล้ววันนี้ต้องมาถึงอยู่แล้วไหม
นัตตี้ : ก็ไม่ถึงกับเซอร์ไพรส์แต่ก็ตกใจที่เป็นตอนนี้นะคะ สำหรับ นัตตี้ ไม่ได้คิดว่า ก้อย จะทำมันตอนนี้เพราะเรารู้สึกว่า ก้อย มีความรักอยู่เยอะมาก แล้วยังบอกอยู่เลยว่าถ้า ก้อย สู้ต่อไปได้ก็ลองดูมันอาจจะดี แต่ไม่คิดว่าจะพอแล้ว ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้

ด้วยความที่ว่าไม่ว่าจะเจออะไร เรามักจะใช้โหมดของการอดทนและความเข้าใจด้วยหรือเปล่า ในบางเรื่อง ถึงรู้สึกว่าไม่หรอก เดี๋ยวก็ดีขึ้น
ก้อย : เป็นที่ตัวก้อยด้วยที่สื่อสารน้อย แล้วก็ใช้คำนั้นแหละเวลาเจอปัญหาอะไรก็ตาม ก้อย มักจะพูดกับตัวเองตลอดไม่เป็นไรหรอก ช่างมัน เหมือนบางทีเราเลือกที่จะข้ามทั้งๆ ที่เห็นกันจะๆ เลยนะคะ ว่านี่คือปัญหา แต่เหมือนเรามองว่ามันไม่ได้เป็นอะไรขนาดนั้นหรอกแล้วเราก็ข้ามได้ แล้วก้อยก็คิดว่าข้ามได้จริงๆ
นัตตี้ : เราก็เชื่อว่า ก้อย ข้ามได้ เรายังคิดเลย ก้อย ข้ามได้อย่างไร
ก้อย : ก้อย ว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นคือ ณ วันนั้นเราเหนื่อยมาก ก้อย ทำงานหนักมากเมื่อพอเราเหนื่อยจน มันเหนื่อยจากเรื่องอื่น ปกติถ้าเราโฟกัสกับเรื่องความรักอย่างเดียว แล้วเราเหนื่อยเรายังมีแรงมากพอที่เราจะข้ามอะไรหลายๆ อย่างไป แต่พอเราเหนื่อยจากเรื่องอื่นมันอาจจะเจอบางเรื่อง หรือ อะไรหลายๆ อย่างที่คุยกันไม่รู้เรื่อง มันเหมือนร่างกายมันแบบมันก็เลยรู้สึกว่าพอเถอะ

เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้วเรื่องใดๆ ก็ตาม ที่เราคิดว่าทิ้งมันได้ ตัดมันได้ข้ามมันได้ จริงๆ แล้วมันเหมือนเรากวาดมันกองไว้ใต้พรมเหมือนอย่างที่เขาบอกว่ามันสะสมๆ มันถึงได้มาถึงวันหนึ่ง มันถึงได้แบบไม่ไหวแล้ว
ก้อย : ก้อย ว่าก็ด้วยค่ะ ก้อย ว่าถ้าปัญหาชีวิตทั่วไป ก้อยว่าเราคุยและจัดการมันได้ประมาณหนึ่ง แต่กับความรักเราคิดว่ามันมีสิทธิ์เป็นแบบนั้น เพราะเราเลือกที่จะไม่อยากปะทะ เพราะเรารู้สึกว่าไม่เป็นไรหรอกอะไรอย่างนี้ มันก็เลยไปกองรวมกันนั่นแหละค่ะ แล้วเราก็พูดจริงๆ ว่าเราจริงจังนะ หมายถึงว่าเราใช้ชีวิตเหมือนคนแต่งงานเลย พูดตรงๆ เราใช้ชีวิตเหมือนคนแบบใช้ชีวิตจริงๆ และก้อย ก็รู้สึกว่าวันที่เราเลิกกันมันคือเรา และการได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ทัศนคติ สังคมอะไรหลายๆ อย่างมันคือเราสองคนจริงๆ

แต่เอาจริงๆ เราก็โดนดราม่า คบก็โดน เลิกก็โดน
ก้อย : ตั้งแต่ก่อน ตั้งแต่ดราม่า จนเลิก ก็มาเรื่อยๆ ค่ะ ทัวร์ก็ค่อยๆ มาขับๆ กันมาจอดๆ แต่ก้อยก็คิดว่าก้อยจัดการได้ดีขึ้นเยอะ ช่วงแรกๆ ที่แบบว่า รถขับแวะมาทัวร์เรา เราก็จะเหมือนแบบต้อนรับเขาจัดเต็ม เราก็น่วมเลย แต่พอเริ่มโตขึ้นแล้วเรารู้สึกว่า รถทัวร์มาจอดหน้าบ้านเดี๋ยวก็ผ่านไป
แล้วตอนเลิกกันโดนด่าเรื่องอะไร
ก้อย : เยอะมากเลยค่ะ แต่มันมีประเด็นนี้ค่ะ คือมีน้องหมาที่เลี้ยงด้วยกัน ซึ่ง ก้อย ก็เลี้ยงเขาเหมือนลูกแล้วก็ผูกพัน แต่จริงๆ แล้วเป็นน้องหมาของพี่เขา เป็นน้องหมาที่พี่เขาเลี้ยงมาประมาณนี้ค่ะ เราก็รู้สึกว่าน้องหมาตัวนี้ เราเลี้ยงเขามา เรารู้สึกว่าเราช่วยกันเลี้ยงดีกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทั้งสองคนคุยกัน แต่หลายๆ คนก็จะรู้สึกว่ากั๊ก หมาของเขาก็คืนเขาไปสี
“ไม่มีจิตสำนึกอะไรอย่างนี้ค่ะ ก็คือด่าเราเรื่องการที่เราเอาน้องหมามาเลี้ยง ถามว่าจริงๆ เราต้องอธิบายไหม จริงๆ ก็ไม่ต้องอธิบายหรอกแต่ว่า ก็มันจะมีจุดโดน เขาเรียกว่าอะไรนะ เราเป็นคนองค์ลงง่าย คือถ้าสมมติว่ามันมาประจวบเหมาะ ช่วงเวลาอันอะไรก็ไม่รู้

ก้อย : และสำหรับความรักครั้งต่อไปจะรู้สึกว่าไม่รีบ เพราะรู้สึกว่าด้วยวัยด้วย เพราะเรารู้สึกว่าปกติเรารู้สึกว่าความรักมันต้องพยายามอยู่เยอะในนั้นเหมือนกัน ต้องพยายามสิ มีความสุขสิ แต่ ก้อย รู้สึกว่าในครั้งถัดๆไปก็คือ ไม่เข็ดแต่ก็อยากให้มันสบายๆ แล้วก็เหมือนเป็นพื้นที่ปลอดภัยของเรา
ในวันนี้ถ้ามีคนเข้ามาคุยเปิดใจแล้วหรือยัง
ก้อย : ก็ไม่ได้ปิด แต่ก็อยู่ที่คุยกัน เรารับรู้ได้ไหม คุยกันรู้เรื่องไหม
เวลาปกติจะเห็น ก้อย เป็นคนที่สดใสรื่นเริงมากๆ ตอนร้องไห้เสียงดังๆ ใครๆ ฟังหนูบ้างไหม
ก้อย : ถ้าดังสุดก็คงตัวเองแต่กับเพื่อนก็มีบ้าง

คุณแม่ได้เห็นมุมอ่อนแอของ ก้อย ไหม
ก้อย : ไม่ค่อยเลยค่ะ เพราะว่าแม่ชอบเห็นในรายการ หรือมีใครถามเราจี้จุดแล้วแม่นั่งอยู่ตรงนั้นพอดี แต่ถ้าชีวิตจริงร้องไห้ให้แม่เห็นไม่ค่อยนะ เพราะเขาคือคนที่เรารู้สึกว่าเราเป็นห่วง แล้วเรารู้สึกว่าถ้าเราร้องไห้มากกว่าเราเจ็บ แม่เจ็บกว่าแน่นอน เราเลยเหมือนไม่ค่อยอยากให้แม่เห็นเราร้องไห้
สามารถชมคลิป ย้อนหลัง ได้ในรายการ CLUB FRIDAY SHOW ผลิตโดย CHANGE2561 ทางยูทูป :
ติดตามช่อง Youtube :CHANGE2561
ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7825844
บันเทิง















ความคิดเห็น