“มะปราง” เคลียร์ชัดๆ เลิก “โอบ” พยายามปรับแล้วแต่ไปต่อไม่ไหว ไร้ปัญหามือที่สาม

เปิดใจกับสื่อครั้งแรกหลังถูกจับตาความสัมพันธ์คู่รักเสียงดีเลิกเงียบ ลงเอยที่คู่ของหนุ่ม โอบ-โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ กับสาว “มะปราง-อลิสา ขุนแขวง” ปิดฉากรัก 7 ปี เจอ “มะปราง” งานรอบปฐมทัศน์ ละครเวทีฟอร์มยักษ์เรื่องยิ่งใหญ่ “พิษสวาท เดอะมิวสิคัล” ณ โรงละคร เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์

เคลียร์ชัดๆความสัมพันธ์กับ “โอบ” ตอนนี้?

“ก็อย่างที่ทุกคนเห็นเลยค่ะ ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนกัน ก็คือไม่ได้เป็นแฟนกันแล้วค่ะ”

เราไม่สามารถปรับกันได้แล้ว?

“ใช่ค่ะ เพราะอย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ทุกๆ ครั้ง ว่ามีปัญหากันเรื่อยๆอยู่แล้ว แค่ตอนนี้เราไม่ได้แก้ปัญหาแล้วค่ะ”

ใช้เวลาตัดสินใจนานมั้ย?

“ก็ใช้ระยะเวลาประมาณหนึ่ง เพราะเราก็คุยกันมาหลายครั้งอยู่”

ฟางเส้นสุดท้ายคืออะไร?

“คือเราทั้งสองคนตัดสินใจกันดีแล้วค่ะ แล้วก็คุยกันด้วยความที่เรามีสติกันทั้งคู่ค่ะ”

ไลฟ์สไตล์เราก็ดูไม่เหมือนกันตั้งแต่ต้น?

“ตอนแรกๆปรางว่าไม่ว่าจะเป็นใคร ไลฟ์สไตล์มันก็ไม่ได้เหมือนกันอยู่แล้ว แต่ว่าเราก็พยายามมาเจอกันตรงกลาง ทำในสิ่งที่เค้าชอบ เค้าก็ทำในสิ่งที่เราชอบ ปรางว่ามันก็ผ่านในจุดที่ทั้งสองคนแฮปปี้กันมามากแล้ว แล้วก็เหมือนตอนนี้มันอาจจะแค่เป็นในจุดที่มันไม่สามารถไปต่อได้”

ปรับตัวกันแล้ว แต่มันไม่เป็นตัวของตัวเองใช่มั้ย?

“เป็นนะคะ ทุกอย่างที่เราไปทำ เราก็พยายามเป็นตัวของตัวเองทุกอย่างเลย ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ของเค้า หรือว่าเค้ามาอยู่ในพื้นที่ของเรา คือทั้งสองคนเรามีความสุขกันทั้งคู่ ณ ตอนนั้นค่ะ”

เหตุการณ์ไหนที่ทำให้เรารู้สึกว่าควรจะพอ?

“น่าจะเป็นการคุยกันมาเรื่อยๆ จนรู้สึกว่ามันอาจจะปรับกันไม่ไหวแล้วค่ะ”

ใช้เวลานานมั้ยในการปรับตัวกัน?

“ก็นานนะคะ ทุกครั้งที่เราทะเลาะกัน เราก็จะปรับตัวกันทุกรอบทั้งคู่ แค่ตอนนี้อาจจะไม่สามารถปรับได้แล้ว”

หลายคนตกใจเพราะความสัมพันธ์ ที่ผ่านมาดูราบรื่นดี?

“หนูก็ตกใจค่ะ (ยิ้ม)”

มีเรื่องมือที่สามเกี่ยวข้องมั้ย?

“การที่เราเลิกกัน เราตกลงกันสองคนเท่านั้น ตอนเราคุยกันวันที่เลิกกัน ไม่ได้มีเรื่องคนอื่นเลยค่ะ”

อย่างตัวเรามีข่าวว่าไปแข่งรถแล้วก็เจอนักฟุตบอลบุรีรัมย์?

“ใช่ ก็คิดอยู่แล้วว่าต้องมีประเด็นนี้ เพราะมันก็สามารถโยงได้ มันไม่ได้ผิดอะไร ไม่ว่ามันจะเป็นกิจกรรมอะไร แล้วปรางเลิกกับใคร ทุกคนก็จะโยงว่าเราต้องมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับกิจกรรมนั้นแน่นอนอยู่แล้ว”

นักฟุตบอลบุรีรัมย์ไม่ใช่ใช่มั้ย?

“(หัวเราะ) นักเตะบุรีรัมย์ไม่ใช่ค่ะ ต้องบอกก่อนว่ามีคนถามเยอะมาก คือปรางไปที่สนาม แล้วมีพี่ๆนักแข่งมาถ่ายรูปกับปรางเยอะมาก เพราะเค้าเห็นข่าว แล้วเค้าก็เอาไปโพสต์กันสนุกสนาน แต่จริงๆไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ทุกคนก็เป็นเพื่อนพี่น้องกันค่ะ”

ตอนนี้สภาพจิตใจเรามูฟออนหรือยัง?

“สภาพจิตใจมันก็ดีบ้าง ไม่ดีบ้างแล้วแต่วันค่ะ”

ไม่มีเค้าแล้วรู้สึกยังไง?

“ก็ต้องเคว้งเป็นธรรมดา”

พอมีข่าวว่าเลิกกันโอบก็ดูค่อนข้างเศร้า?

“ในไอจีเค้าใช่มั้ย อันนี้ปรางไม่ได้ถาม แต่ว่าก่อนหน้านี้ปรางถามเค้าว่าที่โพสต์แบบนี้ไม่กลัวคนเข้าใจผิดเหรอ เค้าก็ตอบปรางมา ว่ามันเป็นแค่เพลงกับคำคม ไม่มีอะไรหรอก เค้าบอกหนูแบบนี้ก็ตามนั้น”

ล่าสุดเราก็ลงรูปร่วมเฟรมกัน?

“อันนั้นก็เป็นงานค่ะ เป็นโปรเจกต์ที่เราทำร่วมกัน เรายังทำงานด้วยกันได้อยู่ ยังเป็นเพื่อนกันได้อยู่ เพิ่งเจอกันอาทิตย์ที่แล้ว คุยกันปกติ หนูยังเปิดรูปรถให้เค้าดูอยู่เลย”

แต่คู่เราที่ขาดไม่ได้คือหมอดูเราได้มีการเช็กมั้ย?

SPONSORED

“ก็เช็กบ้างค่ะ (หัวเราะ) แต่ตอนนี้หนูรู้สึกว่า หมอดูก็อาจจะไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของความสัมพันธ์นี้ จริงๆแล้วเป็นเรานี่แหละ ที่ต้องให้คำตอบ ก่อนหน้านี้ก็มีไปปรึกษาแต่ไม่ได้ปรึกษาหนักขนาดนั้นค่ะ หลักๆที่ดูช่วงนี้ก็จะเป็นเรื่องรถแข่ง มากกว่า เรื่องเลข เรื่องสี เรื่องความสัมพันธ์ปรางคิดว่าเราควรจะตัดสินใจเองมากกว่าค่ะ”

ตอนนี้พร้อมเปิดใจมั้ย?

“เปิดใจได้ค่ะ ตอนนี้เปิดใจแล้ว แต่ทุกคนที่เข้ามาตอนนี้ ก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ดี ยังไม่ได้คบใครเป็นแฟนทั้งนั้นค่ะ มีเข้ามาบ้างเป็นปกติ แต่เราไม่ได้ตกลงที่จะคบกับใคร หรือว่าเลือกใครทั้งนั้นเลยค่ะ ตอนนี้มันยังวุ่นวายมาก (หัวเราะ)”

เราได้คุยกับโอบมั้ยว่าช่วงนี้เค้าเป็นยังไงบ้าง?

“ปกติหนูจะถามผ่านคนอื่น ไม่ค่อยได้คุย แต่ถ้าเจอกันก็จะถามเป็นไงบ้าง เค้าก็เดี๋ยวไปเมืองนอก เดี๋ยวไปทำงาน ก็ถามถึงหมา ว่าหมาเป็นยังไงบ้างเพราะตอนนี้หมาอยู่กับหนูค่ะ”.

ขอขอบคุณ แหล่งที่มา :  https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2701866