อุ๋ย นนทรีย์ เสียดายสูญเสีย เมฆ วินัย นักแสดงคุณภาพ มีวินัยสมชื่อ ประทับใจไม่ลืม

อุ๋ย นนทรีย์ เสียดายสูญเสีย เมฆ วินัย นักแสดงคุณภาพของวงการ มีวินัยสมชื่อ ประทับใจไม่เคยลืม พระเอกร้อยล้านคนแรกของประเทศไทย

ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร เผยถึงความผูกพัน ประทับใจที่มีต่อ เมฆ วินัย ไกรบุตร อดีตพระเอกดังผู้ล่วงลับ หลังต่อสู้ทรมานป่วยโรคตุ่มน้ำพองมานาน 5 ปี ยกเป็นนักแสดงคุณภาพ ภูมิใจมีส่วนทำให้ เมฆ กลับมามีชื่อเสียงผลงานภาพยนตร์ นางนาก ประสบความสำเร็จ เป็นพระเอกร้อยล้านคนแรกของประเทศ

อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง นางนาก เล่าถึงความประทับใจ ครั้งที่ร่วมงานกับ เมฆ วินัย ว่า เรารู้จักกันมานานตั้งแต่ทำแคสติ้งเรื่อง นางนาก ตนเป็นคนที่ยืนยันกับบริษัท ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ว่าขอใช้ วินัย ไกรบุตร กับทราย เจริญปุระ ถ้าไม่ใช่สองคนนี้ ก็จะไม่ทำงานเรื่องนี้ เพราะเชื่อในตัวเขา เมฆเป็นคนซื่ออยู่ในดวงตาของเขา เขาสามารถทำให้เราเชื่อได้ว่า เขาเป็นไอ้มากได้จริงๆ

ผู้กำกับฯ คนดังเผยอีกว่า “การทำงานกับเขา เรื่อง นางนาก เมฆเป็นคนที่ทุ่มเทในการทำงานมาก ใส่ใจกับบท เป็นคนมีวินัยมากสมกับชื่อของเขา มาตรงเวลาตลอดแล้วจะกลับคนหลังๆ เพราะคอยมาถามเราตลอดว่า วันนี้มันโอเคไหม พรุ่งนี้เราจะทำอะไรกัน พอเราบอกให้เมฆไปทำกล้ามมาเพิ่มอีก เมฆจะให้ความร่วมมือดีมากทุกอย่าง หลายฉากเราก็ไม่คิดว่าเขาจะกล้าเล่น บอกเมฆว่าจะมีฉากปล่อยหนูออกไปหาเมฆนะ มันอาจจะกัด

เขาพร้อมทำทุกอย่าง น่ารักมากๆ แม้กระทั่งฉากที่เขาต้องวิ่งไปในดงหญ้า ซึ่งมันคมบาดตัวมหาศาลมาก เขาก็ยอมทำทุกอย่าง วิ่งกี่รอบก็ได้ให้บอกมา นี่เป็นความตั้งใจ มันส่งผลให้เกิดความสำเร็จในตัวของคุณเมฆ วินัย ไกรบุตร ด้วยความตั้งใจและใส่ใจในการทำงานมันทำให้หนังประสบความสำเร็จ และตัวของเขาเองมีชื่อเสียงเป็นพระเอกร้อยล้านคนแรกของประเทศไทย”

อุ๋ย นนทรีย์ เผยถึงความผูกพัน 25 ปี กับ เมฆ วินัย ว่า ตนติดตามข่าวเมฆมาตลอด ตอนทำหนัง ปืนใหญ่จอมสลัด ก็เชิญเมฆมาเล่นเป็นอีกาดำ เขายินดีมากๆ ต้องแต่งตัวนาน เขียนลาย รอยสักเต็มไปหมด มันเป็นการทำงานที่ค่อนข้างยาก เราถ่ายหนังเรื่องนี้กันปีหนึ่ง แล้วเมฆก็มาอยู่ในหนังเรื่องนี้เกือบจะตลอดเวลา

พอถ่ายหนังเสร็จมีงานเลี้ยงปิดกล้อง เมฆ เดินมาหาตนบอกว่า ผมไม่เอาเงินพี่นะเรื่องนี้ ผมขอขอบคุณที่พี่ให้ผมเป็นผมในวันนี้ เมฆไม่เอาสตางค์เลยแม้แต่คิวเดียว เป็นความประทับใจมาก หนังเรื่องนี้มันเป็นหนังที่ใหญ่มาก ต้องการความทุ่มเทมาก

เมฆต้องไปเรียนดำน้ำ ไปทำทุกอย่างที่มันต้องอยู่ใต้น้ำ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยากมาก เขาสำลักน้ำบ่อยครั้งมาก ด้วยความที่เราจะเอาให้ได้มันก็ทรมานนักแสดง ก็ต้องขอบคุณเขามาก เมฆก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ

“หลังจากเรื่อง ปืนใหญ่จอมสลัด ก็ไม่ได้มีโอกาสร่วมงานกันอีก แต่คุยกันตลอด และเริ่มได้ยินว่าคุณเมฆป่วย ติดตามถามไถ่ตลอด เป็นโรคที่นึกไม่ออกว่ามันจะหายหรือเปล่า เขาอยู่ด้วยความหวัง ให้กำลังใจกันอยู่เรื่อยๆ ตนเจอกันครั้งล่าสุด เมื่อตอนครบรอบ 20 ปี นางนาก ตอนนั้นเหมือนคุณเมฆเริ่มจะดีขึ้น แต่ช่วงหลังก็มาทราบข่าวว่าทรุดลงไปอีก เห็นความเป็นนักสู้ของเมฆมาตลอด

พยายามจะทำมาหากินตลอด ภูมิใจที่ได้เป็นจุดเริ่มต้นในการที่ทำให้เขาได้กลับมาเป็นนักแสดง เป็นดาราที่มีชื่อเสียงอีกครั้งหนึ่ง มันเป็นความภูมิใจของเราที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งในการที่จะขับเคลื่อนทำให้น้องคนนี้ประสบความสำเร็จ

วงการบันเทิงสูญเสียนักแสดงคุณภาพ เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เมฆยังสามารถทำงานได้อีกเยอะ อยากให้น้องไปสู่สุคติ พักผ่อนอย่างสงบ ถ้ามีอะไรที่เราเคยล่วงเกินไป ขออโหสิกรรมต่อกัน

ขอให้น้องหลับอย่างสบาย วงการบันเทิงสูญเสียนักแสดงคุณภาพ เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เมฆยังสามารถทำงานได้อีกเยอะ อยากให้น้องไปสู่สุคติ พักผ่อนอย่างสงบ ถ้ามีอะไรที่เราเคยล่วงเกินไป ขออโหสิกรรมต่อกัน ขอให้น้องหลับอย่างสบาย” ผู้กำกับฯ คนดังกล่าว.

ขอบคุณแหล่งที่มา :  khaosod