แน็ก รู้ตัวโดนด่าเป็นคนเลว ปมเลิก เก๋ไก๋ สไลเดอร์ ขอโทษถ้าพูดตรงไปทำคนไม่พอใจ

แน็ก ชาลี รู้ตัวโดนถล่มด่าเป็นคนเลว ปมเลิก เก๋ไก๋ สไลเดอร์ ขอโทษถ้าพูดตรงไปทำคนไม่พอใจ แต่ไม่คิดฟ้องใคร

รู้ตัวโดนทัวร์ลงหนัก ถูกชาวเน็ตคอมเมนต์ด่าแรงว่าชั่ว สำหรับ แน็ก ชาลี หลังให้สัมภาษณ์เรื่องความรักที่จบลงไป ทำหลายคนไม่พอใจ กับคำตอบที่เหมือนโทษ อดีตแฟนสาว เก๋ไก๋ สไลเดอร์ สาเหตุเลิกเพราะเบื่อ

แน็ก ชาลี

ล่าสุดวันที่ 12 ต.ค. 66 หนุ่มแน็ก ได้เปิดใจอีกครั้ง หลังมาร่วมชมนิทรรศการ “โคอะลา มาร์ช” ครั้งแรกในไทย ที่ริเวอร์ซิตี้ สี่พระยา ชั้น2 ห้อง RCB Galleria2 ถึงฟีดแบ็กหลังโดนทัวร์ลงเจอคอมเมนต์ถล่มด่าแรงเป็นคนชั่ว คนเลว ซึ่งแน็กพร้อมเปิดรับทุกคำด่า และไม่คิดฟ้องใคร พร้อมเผยความสัมพันธ์กับ เก๋ไก๋ คบกันมานานเกือบ 3 ปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาเปิดตัวคบกันไม่นาน ยอมรับว่ารักครั้งนี้จริงใจถึงขั้นอยากสร้างอนาคต แต่งงาน ทั้งที่ไม่เคยคิดเรื่องนี้ในหัวมาก่อนมองเป็นเรื่องไร้สาระตลอด แต่ที่ผ่านมาตนคงคิดหลงตัวเองไปอยู่ฝ่ายเดียวว่าพร้อมแล้ว

ก่อนหน้านี้ที่เราให้สัมภาษณ์เรื่องความรักเป็นยังไงบ้าง? “ดีครับ ผมดูเป็นคนชั่วดี ผมชอบมาก อยู่วงการมา 20 ปี ทุกคนด่าผมหมดเลย ผมชอบไปนั่งอ่านคอมเมนต์ ไม่ต้องห่วงผมฟ้องใคร คุณด่าผมไม่เคยฟ้องคุณ ผมมั่นใจเลย ผมเป็นคนพูดหน้ากล้องหลังกล้องผมไม่ฟ้องก็คือไม่ฟ้อง บอกไว้เลยผมเป็นห่วงเพื่อนๆ ที่ไปคอมเมนต์นะหลายคนผมไม่อยากให้ไปเมนต์ไม่ดีเลย เพราะยุคนี้นักแสดงอย่าว่ากันเลยนะ เขาใช้วิธีการฟ้องเงียบๆ นะเพราะการฟ้องเป็นรายได้ทางนึงที่ดีมากๆ เลยนะ คือคุณไม่ต้องทำงานเลย 2-3 ปีที่แล้ว ถ้าผมฟ้องป่านนี้ผมสร้างตึกอะไรได้ทุกอย่างแต่ก็จะมีคนรอบตัวที่บอกว่าอย่าไปฟ้องเลยแต่เราเห็นคนใกล้ตัวใครด่าแคปแล้วฟ้องหมดก็เป็นห่วงหลายๆ คน แต่ตัวผมไม่ฟ้องแน่นอน ผมชอบการด่าการให้สติผมในวันที่ผมหลุดสติออกไปมันเป็นสิ่งที่ดีมากๆ มีคนตักเตือนผมแล้วก็อะไรที่ผมเลวพวกคุณก็ไม่สนับสนุนผม ผมมีข้อดีไหมก็มี ข้อเลวก็มีแต่ก็สนับสนุนกันในข้อดีไม่สนับสนุนในข้อไม่ดีนะครับ”

ที่เขามาด่าเราเรื่องอะไรรู้ไหม? “คือส่วนใหญ่ด่าผมเลวนะครับ แต่ไม่เป็นไรผมเปิดใจเพราะผมเป็นคนที่พูดอะไรไม่ดี พูดอะไรกระทบเราก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เราทำ แต่สำหรับผมถ้าให้ย้อนได้ผมก็ (คือเราก็จะพูดแบบนั้นออกไปใช่ไหม?) จริงๆ ผมก็ขอโทษแล้วกันถ้าพูดอะไรที่ไม่พอใจกับใครหลายคน แต่สำหรับผมคือผมอยากทำอะไรในแบบตัวของผม ไม่ต้องทำนู่นนี่ได้ใช้ชีวิตแบบเต็มที่มันก็น่าจะมีความสุขขึ้น หลายๆ อย่างก็เป็นอะไรที่ดี”

แสดงว่าวันนั้นเราสติหลุด? “จริงๆ ผมไม่ใช่ไม่มีสติหรอก ผมเป็นคนที่โคตรมีสติจากที่ใครสัมผัสหรืออะไร แต่บางอย่างที่ผมไม่ได้อยากพูดผมก็พยายามนิ่งหลายๆ อย่าง ผมไม่ชอบอะไรขุ่นเคือง มีแฟนคลับหลายที่เขาไม่รู้จริงๆ ว่าตอนนี้เป็นยังไงอะไร แล้วผมต้องมารับคำถามนั้นเป็นร้อยเป็นพันจนไลฟ์ขายของก็ไลฟ์ไม่ได้เพราะมีคนมาถามที 3-4 พันคนว่าเป็นยังไงเลยรู้สึกว่า เฮ้ย เราอย่าปล่อยให้มันค้างคานะ ถ้าเราแคร์คนพวกนั้นจริงๆ เราแคร์ทั้งเขา เราแคร์ทุกคน เราแคร์ทุกอย่าง ผมเลยรู้สึกว่ารักก็คือรักวันไหนมันจบเราก็ต้องบอกว่าจบ เราไม่ใช่ปล่อยให้มันยืดเยื้อ ผมว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดีเลยแต่การพูดตรงๆ ของผมอาจจะดูเลวก็เต็มที่เลยครับ ด่าผมได้เต็มที่ (ยิ้ม)”

แน็ก – เก๋ไก๋

แต่ที่เราพูดก่อนหน้านี้มันก็คือความจริงทุกอย่างใช่ไหม? “มันคือความจริงครับ และที่สำคัญที่สุดผมเป็นผู้ชายผมออกมาพูดในสิ่งของผมแล้วจริงๆ ทุกคนมีสิทธิพูดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเขา เป็นเพื่อนเขา หรืออะไร มันเป็นสิทธิได้หมดเลย”

เกิดเรื่องแบบนี้เรารู้สึกยังไงบ้างหรือบอกชาวเน็ตว่าฟังให้จบก่อนไหม? “โห ไม่ต้องไปฟังให้จบหรอกครับ ผมเห็นชาวเน็ตเขาไปตัดที่มันดูชั่วร้ายๆ ใจผมก็ยังย้ำว่าผมอาจจะมีมุมที่เป็นคนปกติ คนเลวบ้าง คนนิสัยไม่ดี แต่บางทีเรารู้สึกว่าเราไม่ได้อยากทำอะไรให้ภาพมันอย่างนู้นอย่างนี้”

ไม่ได้สร้างภาพ? “ไม่ใช่คำว่าสร้างภาพอย่างเดียว มันมีอะไรอีกหลายอย่าง หลายคนอาจจะเข้าใจว่าผมเพิ่งคบ เพิ่งเปิดตัว จริงๆ เราอยู่กันนานจนมันเกินคำนู่นคำนี่อะไรแล้ว ผมรู้สึกว่าอยากทำอะไรให้มันดูเป็นธรรมชาติ มันก็ดีนะสำหรับผม”

คบกันก่อนตั้งแต่โยนโบว์ลิ่ง? “ก่อนนานมาก จริงๆ ผมพูดตั้งแต่ครั้งที่แล้ว พยายามจะพูดให้มันจบไปแล้ว ผมว่าวันนี้เดี๋ยวมันก็มีคนไปโยงอะไรอีก แต่จริงๆ ถ้าใครรู้ อีกแค่ 5 เดือนมันก็จะครบ 3 ปีแล้วนะ (เงียบมาก?) ใช่ ช่วงที่เราได้ห่างกันบ้าง ได้ไปทำอะไรส่วนตัวกันบ้าง มันก็เป็นความสุขที่ความจริงมันก็ไม่ได้สั้นหรอก มันอยู่กันมานานแล้ว แต่ว่าตอนนี้ก็ถือว่าผมก็จะตอบแบบเอาหล่อบ้าง คนเรานะครับ ไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกันนะครับ ความคิดเห็นไม่ตรงกันต่างแยกย้ายต้องไปทำงานนะครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขครับ เราจบกันด้วยดีครับ (แล้วถ้าตอบแบบแน็กล่ะ?) ไม่เป็นไรนะครับ เครียดๆ ก็ไปอ่านคอมเมนต์ด่า เอาเป็นว่าขอให้ทุกคนมีความสุข ใครจะพูดอะไรก็พูดได้นะครับ จะด่าผมก็เต็มที่เลย”

แล้วเรามีความสุขมั้ย? “ตอนนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมากนะครับ เราก็ต้องรักษาการทำงานของเรา เราก็ต้องแคร์ลูกค้า เอาเป็นว่าผมขอโทษแล้วกันในบางทีที่ผมพูดจาตรงไป ไปกระทบอะไรไป แต่ผมก็รู้สึกว่าใครไม่ใช่ผม คุณไม่รู้นะว่าเราโดนถาโถมอะไรบ้าง จริงๆ ของขวัญอะไรผมก็มีให้ แต่เป็นเรื่องหนึ่งที่ผมไม่ชอบคือผมจะบอกตรงๆ เลยว่า ไม่ว่าผมซื้อของขวัญอะไรให้ อย่าไปลง อย่าไปถ่าย ผมรู้สึกว่าชีวิตผมไม่ได้ต้องการให้แบบต้องลงต้องถ่าย ผมขอให้มันเป็นความสุขที่ผมให้ในหลายๆ ครั้ง ในหลายๆ วัน อะไรที่พิเศษผมอาจจะบอกว่า โอ้ย ผมไม่ให้อะไรหรอก อาจจะทำดูกวนตีน แต่จริงๆ เราก็มีให้เขา หลายคนเห็นที่เขาก็พยายามพูดออกมาว่า พูดได้มั้ย ผมก็จะเบรกไว้ก่อน ไม่เป็นไร ผมอยากให้มันดูเป็นธรรมชาติที่สุด”

มีการปรับกันมั้ยระหว่าง 3 ปี? “เอาจริงๆ อีก 5 เดือนถึงจะ 3 ปี แต่ว่าช่วงหลังที่เรากลับมาจริงจังกัน ผมเนี่ยโคตรจริงจังเลย ผมบอกเลยว่าผมจริงใจมาก ทุกเรื่อง ทุกอย่าง ผมบอกเลยว่าผมจริงใจและตั้งใจมาก หลายอย่างเลยที่เรามีการคุยกัน และเราก็อยากทำให้เขามีความสุข ผมพยายามปรับเปลี่ยนอะไรเยอะแยะมากมาย แต่ในเมื่อต้องเป็นแบบนี้ในทางเลือกของแต่ละคน ก็ขอให้ทำงานกัน เราต่างคนต่างก็ทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด ก็เป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้ว”

การกลับมาคบกันจริงจังถึงขั้นไหน? “เอาจริงๆ ผมโคตรอายเลยนะ แต่ก่อนผมไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานเลยนะครับ อาจจะมองเป็นเรื่องตลก เรื่องไร้สาระ ถ้าใครไปดูไลฟ์เสื้อแดงที่ผมชอบไลฟ์น่ะ ผมชอบย้ำว่าขออะไรกัน คนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล่นๆ แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งนี้มันเกิดกับคนที่ไม่เคยคิดจะแต่งงานได้ตลอดเลยนะ คำถามผมอาจจะดูตลกเล่นๆ ไร้สาระนะ แต่จริงๆ แล้วผมมีความคิดนั้นเหมือนกันนะพอเรากลับมาจริงจังตั้งใจทุกอย่าง เขาอาจจะมองเป็นเรื่องเล่นๆ ก็ได้ ใครอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระก็ได้ ไม่เป็นไร แต่พอผมอายุ 30 มันก็เป็นไปตามอายุที่คนพูดจริงๆ นะ ไอ้ตอนนั้นอาจจะยังไม่คิด แต่พอถึงเวลาจริงก็มีโมเมนต์นั้นเหมือนกัน”

คิดว่าคบกันกี่ปีถึงจะแต่ง? “การคบของผมต้องดูว่าสองคนจริงใจกันจริงๆ และอยู่แล้วรู้สึกว่ามั่นคงจริงๆ ที่เราจะเปิดตัวได้ มันอาจจะมีที่เขาไม่พร้อม เราไม่พร้อม แต่พอวันนึงผมคิดว่ามันถึงเวลาที่พร้อมแล้ว ก็น่าจะมีความหลงตัวเองของผมด้วยที่อาจจะคิดไปเองฝ่ายเดียว โดยที่เราอาจจะไม่รู้ตัว เราก็รู้ว่าครั้งนี้เป็นอะไรที่พร้อมทุกอย่างจริงๆ เราจะลุยโน่นลุยนี่ เอาเป็นว่าสัมภาษณ์ครั้งนี้เสร็จคงโดนด่าอีกตรึมเลย (ยิ้ม)”

สายตาก็ยังเศร้าอยู่? “พอดีว่าผมเป็นคนหลับยากครับ ตาเลยอาจจะดูเศร้า แต่วันนี้ผมรู้สึกดีขึ้นเยอะครับ ร่างกายผมดีขึ้นเยอะมากๆ ผมขอบคุณพี่ๆ นักข่าวทุกคนที่อยู่กับผมมาตั้งแต่เด็กๆ และเรื่องอะไรที่ผมเลวก็เตือนผมตรงๆ เลย เรื่องอะไรที่ผมพูดไม่ดีก็สั่งสอนผมได้นะครับ ผมเป็นคนที่พูดตรงๆ และรับคำสอนได้ทุกเรื่องนะครับ อยากด่าผมอะไรยาวๆ ผมโคตรชอบอ่านเลยครับ (ยิ้ม) ทำให้ผมได้กลับมาทบทวนตัวเองด้วย”

ยังมีเฮิร์ตอยู่มั้ย? “มีๆ เป็นเรื่องปกติมาก”

รู้สึกว่าตอนนี้ต่างกับตัวเองในวัย 20 ขนาดไหน? “เอาจริงๆ เรื่องโตเนี่ยผมก็โดนด่ากระหน่ำ ตอนนี้เราคงไม่ต้องพูดแล้วว่าเราอายุ 30 แต่ผมแค่รู้สึกว่าเราต้องทำอะไรที่มันมั่นคงเยอะขึ้น เราจะไปเล่นๆ เหมือนตอน 20 อยากทำอะไรตามใจไปหมดไม่ได้ ไปหาแต่กุ้ง หาแต่ปลามันก็ไม่ได้แล้ว เป็นครั้งแรกเลยนะรอบนี้ที่เราตั้งใจวางแผน ตั้งใจจะเก็บตังค์ ตั้งใจจะทำอะไรหลายๆ อย่าง ตามอายุครับ”

เขาจะออกงานแล้ว เราเตรียมรับแรงปะทะยังไงบ้าง? “ผมขอให้เขาพูดเลย เอาเพื่อนเขามาเลย เอาเพื่อนผู้จัดการอะไรเขามา เหมือนเพื่อนเขาก็ไปโพสต์รูปลง เหมือนผมหลงตัวเองไปอีกว่าเขาไปโพสต์รูปรองเท้า ใครเห็นก็ไปดูแล้วกัน อะไรที่ไม่ดีก็ว่าผมได้เต็มที่ครับ”.

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7913031