โอ๊ต ปราโมทย์ ลดความแสบเปิดตัวรักใหม่ พลอยช่า

โอ๊ต ปราโมทย์ ลดความแสบเปิดตัวรักใหม่ พลอยช่า
ออกมายอมรับเต็มปากว่าไม่โสดแล้ว สำหรับนักร้องหนุ่ม โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน ที่ล่าสุดรับงานแสดงละครเรื่อง “ทองประกายแสด” ของค่าย CHANGE2561 และได้เปิดใจเรื่องความรัก หลังมาร่วมฟิตติ้งละครเรื่องดังกล่าว ว่ากำลังคบหากับสาวสวยชื่อ พลอยช่า

ตกลงมีแฟนหรือยัง? “ก็แฮปปี้ดีครับ มีความสุข ผมไม่ได้เปิดตัว แต่ผมใช้ชีวิตปกติแบบนี้อยู่แล้ว ไปเที่ยวก็อย่างที่เห็นในคลิปนั่นแหละ ก็มีไปถ่ายรูปกัน คือเวลาเจอกันไม่ค่อยมี จะเจอกันก็เวลาไปเที่ยวนี่แหละ เพราะผมทำงานทุกวัน ก็จะอยู่กันแบบผู้ใหญ่ เจอกันเมื่อเรามีเวลาว่างตรงกัน”
รู้จักกันได้ยังไง? “เพื่อนแนะนำครับ จริงๆ รู้จักกันมานานแล้ว เคยเจอกัน แล้วก็มีโอกาสได้คุย มันเลยทำให้คุยกันแล้วเข้าใจกันง่าย เพราะเราก็แก่แล้ว ทำงานหนัก เพราะฉะนั้นคนที่จะอยู่กับเราเขาต้องเข้าใจเรา เราทำงานทุกวัน ไม่เว้นเสาร์-อาทิตย์เลย วันหยุดก็ต้องทำ และต้องรับผิดชอบหลายอย่าง ก็เลยรู้สึกว่าถ้าทุกอย่างมันโอเค แฮปปี้ แสดงว่าอยู่ด้วยกันได้”

น้องเขาเป็นคนดีไหม? “ถามว่าผมเป็นคนไม่ดีกับเขาหรือเปล่าง่ายกว่า (หัวเราะ) ผมว่าจริงๆ ไม่ต้องถามผมหรอก เพราะถ้าเขาศึกษาจากเพื่อนเขา ส่วนใหญ่เพื่อนๆ รอบตัวผมเวลาพูดถึงผมเขาจะพูดแต่เรื่องที่ดีอยู่แล้ว แต่ข่าวที่ออกไปมันก็มีดีบ้าง ไม่ดีบ้าง
ฉะนั้นผมว่าคนเรามันต้องเจอกัน คุยกัน คบกัน ลองใช้ชีวิตด้วยกัน มันถึงจะรู้ว่าแต่ละคนเนื้อแท้มันเป็นยังไง ผมอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่พี่ๆ เห็นก็ได้ ผมก็เป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยได้คุยอะไร ทำแต่งาน กลับบ้านก็สลบแล้ว”
เราพิสูจน์รักแท้ให้เขาเห็นยังไง? “ไม่ได้พิสูจน์อะไรเลยครับ ก็ถ้าเขาทนคนอย่างผมได้ก็โอเคแล้ว ทนหมายถึงว่าในช่วงเวลาที่ผมทำงาน ความเป็นคนง่วนกับงาน และอยู่กับงานทั้งวัน พาร์ตของนักแสดงก็ต้องเป็น พิธีกรก็ต้องเป็น กลับมาออฟฟิศก็เป็นผู้บริหารอีก แล้วมารับงานแสดงอีก ก็ถ้าเขารับได้ในสิ่งที่เรามีเวลาน้อย และไม่ค่อยมีเวลาให้เขาได้ ผมว่าแค่นี้มันก็พิสูจน์อะไรหลายๆ อย่างได้แล้ว”

ทำไมถึงรู้สึกว่าอยากจะจริงจังขึ้นมา? “ผมเป็นคนจริงจังกับทุกคนที่คุยเลยนะ เพราะผมรู้สึกว่าเราก็อายุเยอะแล้ว ก็ต้องมองไปข้างหน้า ดูอนาคตข้างหน้าว่าเราจะวางแผนยังไง แต่ตอนนี้หลักๆ แผนชีวิตของผมคือบริษัท อยากให้มันโตกว่านี้ก่อน อีกสัก 4-5 ปีค่อยว่ากัน ถ้ามันยังแฮปปี้แบบนี้อยู่ก็แสดงว่าไปด้วยกันได้”
รู้สึกยังไงบ้างที่เขาโดนเปิดวาร์ป? “ผมไม่รู้สึกอะไรเลย ผมเฉยๆ มันไม่ใช่หน้าที่ผมที่จะไปเดือดเนื้อร้อนใจแทนเขา และตัวเขาเองก็เฉยๆ เพราะเขาต้องรู้อยู่แล้วว่าคุยกับเรา ถ้าเป็นข่าวมันก็จะมีแรงปะทะอยู่แล้วจากโซเชียล จากคนที่คอยติดตามว่าคนที่โอ๊ต ปราโมทย์คุยเป็นใคร แต่โชคดีที่เขามีภูมิต้านทานอยู่แล้ว”
เคยถามเขามั้ยว่าไม่กลัวเราเหรอ? “เอาจริงๆ ทุกคนที่คุยกับผมก็ต้องตั้งการ์ดอยู่แล้วล่ะในระดับนึง เราก็เป็นคนแสบเหมือนกัน แต่ว่าด้วยอายุผมว่าเราก็ไม่ได้ผาดโผนเหมือนสมัยเด็กแล้ว มันก็คงทำให้เพื่อนๆ ผมรวมถึงตัวเขาเห็นว่าเราก็นิ่งขึ้น มันไม่มีเวลาซ่ามากกว่า
ถามว่าจะหยุดซ่าไหม ถ้าผู้ชายที่มันซ่า มันก็ซ่าอยู่วันยังค่ำแหละ แต่เราไปซ่าในทางอื่น เราไปซ่ากับเพื่อนๆ เราไปซ่ากับสิ่งที่เราชอบ ซื้อรถ ซื้ออะไรที่เราอยากทำ แต่พออายุเยอะขึ้น เราก็ไม่ได้หนักหน่วงเหมือนกับตอนเด็กแล้ว”

เรียกว่าวางมือเรื่องผู้หญิงไปเลยใช่ไหม? “เอาจริงๆ ผมว่าคนกลัวผมอยู่แล้ว ได้ยินชื่อโอ๊ต ปราโมทย์ คนก็กลัวอยู่แล้ว ฉะนั้นทุกคนเขาก็ตั้งการ์ดอยู่แล้ว เราก็เข้าใจได้”
เขาได้เจอแก๊งเพื่อนของเราหรือยัง? “เขาเจออยู่แล้ว เขาก็ต้องปรับตัวนิดนึง เพราะว่าเพื่อนเราแต่ละคนเนอะ เราก็บอกว่าสังคมเราเป็นแบบนี้ ซึ่งก็โชคดีที่เขาเองเป็นเพื่อนของเพื่อนผมอยู่แล้ว ก็มีความรู้จักกันในระดับหนึ่งอยู่แล้วว่าเพื่อนเราประมาณนี้นะ
แต่ว่าพวกผมพออยู่ด้วยกันจะคุยแต่เรื่องงาน ผม พี่ป๊อบ (ปองกูล) ไอ้ว่าน (ธนกฤต) ไอ้อ๊อฟ (ปองศักดิ์) หรือใครก็ตามที่อยู่รอบตัว เวลาเราอยู่ด้วยกันที่ไม่ได้ทำงาน เราจะคุยกันเรื่องชีวิต เพราะว่าด้วยอายุมั้ง มันเลยทำให้เราต้องวางแผน คุยเรื่องซื้อบ้านบ้าง
เอาจริงๆ ท๊อปปิกที่คุยกับเพื่อนทุกวันนี้เฮ้ยโรคเก๊าเป็นยังไงบ้าง ความดันเป็นยังไงบ้าง มันคือท๊อปปิกของผู้ชายอายุจะ 40 ทุกคนน่าจะรู้ ทุกวันนี้คุยกันเรื่องปวดคอ ปวดเอว ปวดหลังกันแล้ว ก็จะเป็นแบบนั้น ทุกวันนี้ไม่ได้นัดกันเที่ยวแล้ว นัดกันนวด นวดแผนซ้อนแผน (ยิ้ม)”
เขามาคอยดูแลเราด้วยไหม เพราะสุขภาพเราก็ไม่ค่อยดี? “เอาจริงๆ ไม่มีใครดูแลผมได้หรอกครับ ผมทำงานหนักสุดๆ จริงๆ พอผมเข้าออฟฟิศทุกคนก็จะมีเรื่องมาให้ตัดสินใจนู่นนี่ พอกลับบ้าน 2-3 ทุ่มกำลังจะนอน 4 ทุ่มนาฬิกาปลุก 5 ทุ่มออกมาร้องเพลงอีกแล้ว ก็กลายเป็นว่าเราแหละที่ต้องดูแลตัวเอง พอแก่ขึ้นตอนนี้ก็เริ่มสมัครฟิตเนสแล้ว เริ่มหาเวลาให้ตัวเองได้ออกกำลังกายมากขึ้น เพราะกลัวไม่ได้ใช้ตังค์ กลัวตายก่อน”

ถือว่าครั้งนี้คลั่งรักไหม? “ไม่ แต่นิ่งขึ้น (คบเด็กแล้วสดชื่นจริงไหม?) เขาก็ไม่เด็กแล้วนะ เขาโตแล้วก็เลยคบกันแบบผู้ใหญ่ (ต้องเฟดงานให้น้อยลงไหม?) ไม่เฟดเลยครับ เฟดไม่ได้ เพราะบริษัทกำลังโต”
ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7787586
บันเทิง










.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)




ความคิดเห็น