"เอ-พศิน" ยันเปล่าอกหักจาก "เจนี่" เพราะยังไม่ได้เริ่มจีบเลย เอ่ยชมเป็นผู้หญิงสตรอง
ตกเป็นประเด็นหลังมีข่าวคำใบ้โยงเจ้าพ่อนาคาอกหักหลังไปซุ่มคบกับนางเอกซุปตาร์สายมูเลิกสามี ก่อนจะหันไปคบพระเอกกล้ามปู คนก็โยงไปที่นางเอกสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ กับหนุ่ม เอ-พศิน และ อั้ม-อธิชาติ ที่กำลังถูกจับตามองเรื่องความสัมพันธ์กับสาว นัท-มีเรีย เจอ เอ-พศิน ได้มาร่วมชมภาพยนตร์ “The Seed คู่หูก้องโลก” ที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน เปิดใจเคลียร์เรื่องนี้เริ่มจาก
พอทราบใช่มั้ยว่าเรื่องราวมันโยงมาถึงเรา?
“คุณอั้มกับคุณเจนี่มีความศรัทธาในพญานาคมานานแล้ว 12 ปีก่อนเคยเล่นละครด้วยกันก็แค่นั้น ที่รู้จักกันเพราะว่าเค้าไปนั่งสมาธิ แล้ววันหนึ่งเค้าก็เห็นข่าวหลวงปู่ศิลา เค้ามีอะไรบางอย่างที่อยากจะรู้ ด้วยความที่เค้าเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ไม่สามารถมีภาพลักษณ์ของสายมูได้ ก็ไดเรกต์มาถามผมเรื่องพญานาค ก็เลยได้คุยกัน มันก็จะมีเรื่องของการสร้างเหรียญพญานาค 5 พระองค์ เค้าสร้าง 911 ตามวันเกิดเค้า และที่ติดต่อผมมาเนี่ยก็เพื่อให้ทีมรายการตามรอยนาคราชทางยูทูบไปเก็บภาพ ก็ไปบวงสรวงกันที่ธรรมสถานหลวงปู่ศิลา พอสร้างเหรียญเสร็จมันก็หมดหน้าที่ผม”
มีคนเม้าท์ว่าเราอกหักจากเจนี่?
“ผมอกหักตลอดเลย แต่ผมไม่ได้อกหักจากเจนี่เพราะผมไม่ได้คาดหวังความสัมพันธ์ ผมคิดว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ในอนาคต หลังจากที่ทำเหรียญเสร็จแล้ว เราก็อยากทำรายการเกี่ยวกับความศรัทธาในช่องฟรีทีวี เค้าจะเอาอั้มมาร่วมด้วย เค้าบอกว่าพี่อั้มเนี่ยตัวพ่อเลยในการนั่งสมาธิทำบุญ ซึ่งผมก็โอเค ผมเคยร่วมงานกับอั้ม 2 เรื่อง เค้าเป็นผู้ชายที่อินโทรเวิร์ต แต่ว่ามีน้ำใจ ก็จะถามเจนี่ตลอดว่า พี่เอเป็นไง ทำอะไรอยู่ ทำรายการ ทำเหรียญ บางงานเค้าก็มาด้วย ซึ่งตรงนี้มันเป็นความลับหรือเปล่า มันก็ไม่ใช่ความลับแค่ไม่มีใครรู้ แต่รายการเป็นความลับเพราะว่ามันต้องเสนอช่องไง”
คิดว่าข่าวมันหลุดได้ยังไง?
“ผมว่ามันหลุดจากคนใกล้ตัวเพราะว่าถ้ามันเป็นความลับระหว่าง 3 คนนะ แต่ผมไม่ได้รู้จักอั้มนะ ผมไม่ได้คุยกับอั้ม ทุกเรื่องจะมีเจนี่รู้ เลขารู้ แล้วก็น้องๆในบริษัทรู้”
สรุปแล้วความสัมพันธ์ระหว่างเอกับเจนี่เราจีบเค้ามั้ย?
“ยังไม่พยายามครับ มันคือการทำงานมันจีบไม่ได้ไง เพราะว่าเค้าเพิ่งแถลงข่าวใช่มั้ย แล้วก็มันควรจะผ่านไปอีกซักปีหนึ่งผมถึงจะเริ่ม ซึ่งตอนนั้นผมอาจจะหมดพลังไปแล้ว เพราะว่าเราเห็นธรรมชาติของความเป็นผู้นำของเค้า ซึ่งตรงนี้ผมว่าผู้ชายที่อยู่ด้วยได้ต้องแกร่งมากๆ ต้องรักมากๆ”
พอมีข่าวนี้ออกมาได้คุยกันเรื่องนี้มั้ย?
“ไม่คุยครับ ตัวผมก็อินโทรเวิร์ตเหมือนกัน เราก็เป็นพี่ชายก็มองเค้าเป็นแค่นักแสดงรุ่นน้อง เราไม่ได้มองเค้าเป็นซุปเปอร์สตาร์ ฉะนั้นความห่วงใยมันก็คือพี่ชาย เรารู้จักกันแค่ 3 เดือนเอง”
จริงๆ เคยรู้สึกกับเจนี่มั้ย?
“ผมรู้สึกดีกับเค้าตั้งแต่ผมเล่นละครกับเค้าเมื่อ 12 ปีก่อน เพราะผมเป็นนักแสดงสมทบ และทุกวันนี้ก็รู้สึกดีและนับถือ เป็นความนับถือที่ทำไมผู้หญิงคนนึงเก่งขนาดนี้ วันนี้ผมมาบอกว่าเค้ามีคุณค่า เค้ากตัญญู เค้ารักลูก เค้าทำทุกอย่างที่พ่อแม่ทำได้ด้วยตัวของตัวเองโดยที่ไม่บอกใครมาตลอด 6 ปีมันทำได้ยังไง ผมมีหน้าที่แค่นี้แหละ (ยิ้ม)”
ที่ผ่านมาไม่ได้มีความรู้สึกเกินเลยไปมากกว่าคำว่าพี่น้อง?
“ความรู้สึกเกินเลยมันต้อง 2 คนป่ะ ผู้ชายอะผมบอกเลยว่าสันดานผู้ชายมันพร้อมจะเกินเลยถ้าเค้ามีการตอบรับใช่มั้ย แต่นี่ไม่มี เค้าเห็นเราเป็นพี่ชายเราก็ให้เกียรติกัน คำว่าให้เกียรติกันเนี่ยมันสำคัญมากนะครับ”
เราพูดเหมือนมีใจเราปลื้มเค้า แต่พอเค้าปฏิเสธเราเราก็โอเค?
“เค้าไม่ได้ปฏิเสธ แต่ว่าทุกอย่างมันต้องใช้เวลา อย่างที่เข้าใจว่ามันต้องใช้เวลา เพราะเรามีลูกเหมือนกัน”.
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath
ความคิดเห็น