อาทิตย์ใส - ‘ณเดชน์’เปิดโลกทัศน์ใหม่ ท้าฝีมือ‘ฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล
พระเอกติดดินขวัญใจแฟนๆ ‘ณเดชน์ คูกิมิยะ’ ท้าฝีมือกับประสบการณ์ใหม่ ชิมลางการแสดงละครเวที “ฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล” รับบทพระเอก ‘ชารีฟ’ ร่วมกับนักแสดงหลักมากฝีมือ แก้ม กุลกรณ์พัชร์, กบ ทรงสิทธิ์, หนูนา หนึ่งธิดา และ เก่ง ธชย กำกับการแสดงโดย ‘บอย’ ถกลเกียรติ วีรวรรณ
วันนี้พระเอกหนุ่มได้มาเปิดใจถึงการแสดงละครเวทีครั้งแรก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความฝันของตัวเอง
เป็นยังไงบ้างกับละครเวทีครั้งแรก?
ณเดชน์ – “ตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ เพราะได้มีโอกาสมาเรียนร้องเพลงและซ้อมร้องเพลงพร้อมกับนักแสดงที่อยู่ในเรื่อง ได้มีโอกาสเข้ากับพี่ๆ อองซอมเบิล (Ensemble) กับนักแสดงร่วมทุกคน ซึ่งก็ดีเพราะเราได้รับพลังที่เป็นบวก ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี สนุกมากที่ได้ทำงานกับพี่บอย (ถกลเกียรติ) กับพี่ๆ ทุกท่าน ทีมงานทุกคนเก่งมาก”
“ผมได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก ได้เรียนรู้วิธีการร้องแบบละครเวที ต้องมีการโปรเจ็กต์เสียงบ้างในบางเพลง ฟังคำแนะนำจากพี่ๆ กูรู ถ้าเป็นทางที่ต้องวิ่งหรือแอ๊กชั่นเราต้องบาลานซ์เรื่องการโฟกัสที่เสียงและอารมณ์ของตัวละคร เหล่านี้มันจะมีดีเทลเยอะ อย่างละครไม่มีการร้องเพลง ส่วนใหญ่จะพูดเป็นบทหรือแอ๊กชั่น จะไม่ค่อยน่าห่วงมาก แต่พอเป็นการร้องเพลงมันต้องมีสติมากขึ้น”
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างละครกับละครเวที?
ณเดชน์ – “ละครเวทีไม่มีเทกครับ รวดเดียวตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง อาจจะเป็นความไม่เคยชินว่ารสชาติเป็นยังไง ไม่เคยรับรู้ แต่ผมมีโอกาส ตอนนี้ซ้อมร้องจริงจังแล้ว ทุกๆ วันที่เข้ามาจะไล่เพลงตั้งแต่องก์หนึ่ง พักเบรก แล้วองก์สอง สลับกันไป ถ้ามีนักแสดงท่านอื่นมาด้วยก็เข้าคู่กัน ร้องคู่กัน จะมีการเรียนรู้ต่างๆ เพิ่มมากขึ้นในเรื่องการหายใจ”
“ส่วนใหญ่แล้วคุณครูจะสอนให้เราเข้าใจเทคนิคประมาณนึง มันอยู่ที่ว่ากลับบ้านไปเราทำการบ้านหรือเปล่า วอร์มเสียงหรือเปล่า เรายังบำรุงรักษาอุปกรณ์ในร่างกายเราหรือเปล่า ถ้าลืมเมื่อไหร่ จากที่ซ้อมบ่อยๆ ทุกวันอาจจะต้องกลับมาเริ่มศูนย์ แต่ถ้าเราพยายามรักษาระดับไปเรื่อยๆ ยิ่งซ้อมมากขึ้นๆ เราจะเข้าใจมากขึ้น ฟีลลิ่งมันได้ ต่อไปก็จะเป็นเรื่องของลูกเล่นในการร้องเพลงแล้ว
อะไรที่คิดว่ายากที่สุด?
ณเดชน์ – “เรื่องการ Hit Note ครับ จะเป็นเรื่องประสาทสัมผัส ฟังเสียงเปียโนแล้วเราคิดว่าเราร้องสูงแล้ว โดนโน้ตตัวนี้แล้ว แต่จริงๆ ครูบอกว่ายังไม่ใช่ มันยังต่ำอยู่ คือถ้ามันได้มันก็จะเพอร์เฟ็กต์ บางทีเราสนุกร้องเกินไป ฟีลลิ่งอินเกินไป จนทำให้ความสมบูรณ์แบบในการร้องอาจจะหายไป แต่ถ้าซ้อมบ่อยๆ ก็ได้”
ล่าสุดมีคลิปที่เราร้องเพลง “ปณิธาน” ออกมา ทุกคนบอกเพราะมาก ฟังแล้วขนลุก?
ณเดชน์ – “ผมว่าในเวทีจริงจะดีกว่านี้แน่นอนครับ (ยิ้ม) ตอนนั้นเพิ่งเริ่มเรียน แบบว่าเริ่มเข้าใจ ตอนที่อัดเพลง ปณิธาน เนี่ย ผมแบบอ้าวไหนบอกว่าแค่มาซ้อมวอร์มร้องเพลงแล้วก็จะอัดเทปเฉยๆ ปรากฏพี่บอยบอกร้องเลยๆ เราก็โอเคๆ ก็ฮึบๆ สู้ แต่พอได้เรียนรู้วิธีการร้อง หรือการใช้เสียงที่มันสบายขึ้น ถูกต้องขึ้น เราก็รู้สึกว่าเราน่าจะทำได้ดีกว่านี้แน่นอนในรอบจริง”
ก้าวขามาเกินครึ่งแล้ว มีความรู้สึกว่าฉันคิดถูกไหมเนี่ยบ้างไหม?
ณเดชน์ – “ผมรู้สึกว่าคิดถูกมากที่ได้มาทำงานในครั้งนี้ แรกๆ ที่เริ่มร้องเพลงอาจจะรู้สึกว่าทำไมมันไม่เหมือนตอนเราร้องในงานอีเวนต์ หรือตอนร้องเพลงประกอบละคร (หัวเราะ) เรามั่นใจว่าเราร้องได้ พอมาเข้าคลาสจริงๆ คนละเรื่องเลย ตอนแรกๆ แอบแบบโอ้ย! จะไหวป่ะวะ แต่โดยรวมผ่านมา 2 เดือนในการฝึกซ้อมก็ดีครับ เริ่มเข้าใจ ร่างกายเริ่มพร้อมแล้ว”
ตั้งแต่ทำงานมาเคยตื่นเต้นแบบนี้ไหม?
ณเดชน์ – “มีครับ ทุกครั้งที่ออกอีเวนต์ ทุกครั้งที่ขึ้นเวทีร้องเพลง บางครั้งถ่ายละครเรื่องนึงแล้วหยุดไป 2 อาทิตย์ แล้วกลับไปถ่ายใหม่ อันนี้ก็จะรู้สึกตื่นเต้น แต่ผมว่ามันดีนะที่ยังรู้สึกตื่นเต้นกับอะไรที่กำลังทำอยู่ ถ้ารู้สึกเบื่อหรือเฉยๆ ผมว่าไม่ค่อยดีแล้ว”
ตีความชารีฟเวอร์ชั่นนี้ยังไงบ้าง?
ณเดชน์ – “แก่นหลักๆ คือเขารักประเทศเขา และต้องการจะปกป้องประเทศ ชารีฟเหมือนตัวแทนของคนที่ฮิลฟารา เป็นตัวแทนของกฎหมาย เป็นตัวแทนความซื่อสัตย์ ความจงรักภักดีต่อองค์กษัตริย์ แต่ด้วยความที่เขาเรียนจบต่างประเทศแล้ว กลับมา อะไรที่เป็นจารีตประเพณีรุนแรงชารีฟจะเป็นคนที่ปรับวิสัยทัศน์ ของกลุ่มในราชวงศ์ให้มีมุมมองที่เป็นมิตรกับสหประชาชาติมากขึ้น ผมว่าทุกคนเคยดูเวอร์ชั่นแรกมา ส่วนตัวผมคิดว่าเอาวัยตัวเองนี่แหละ คือคาแร็กเตอร์ของเขาเลย”
เคยศึกษาเวอร์ชั่นเก่าไหม?
ณเดชน์ – “เคยดูครับ เปิดดูในยูทูบ ฟังเพลงเวอร์ชั่นแรก แล้วฟังจากที่พี่ๆ ทุกคนเล่า แต่ที่กังวลที่สุดน่าจะเป็นเรื่องคิวแอ๊กชั่น เพราะได้ยินว่าเวอร์ชั่นก่อนพี่มอส (ปฏิภาณ) บาดเจ็บ แต่ด้วยสปิริตพี่มอสก็กลับมาขึ้นเวทีต่อได้ ผมคงต้องซ้อมหนัก เพราะมันต้องร้องและฟันไปด้วย”
ภาพจำตอนดูเวอร์ชั่นก่อน อ่านนิยาย จนได้มาซ้อม เป็นยังไงบ้าง?
ณเดชน์ – “ตอนอ่านนิยาย รู้สึกว่าชารีฟโคตรดุเลย แต่จากที่ได้อ่านบทของเวอร์ชั่นนี้เขายังมีความขี้เล่น ทีเล่นทีจริง รู้สึกว่านั่นเป็นเสน่ห์ที่ตัวเราเองสามารถเชื่อมต่อกับเขาได้ ผมว่ามันก็ใกล้เคียงได้”
เท่าที่คุยกับพี่บอย ถกลเกียรติ เวอร์ชั่นนี้มีอะไรแตกต่างจากเวอร์ชั่นก่อน?
ณเดชน์ – “พี่บอยอยากปรับค่อนข้างเยอะ เพราะยุคสมัยนี้มุมมองของคนดูเปลี่ยนไปพี่บอยพยายามปรับจูนอะไรหลายอย่าง ทั้งตัวบท ตัวชารีฟ ตัวของนางเอก หรือพระราชาให้มีความเข้ากับยุคสมัยนี้
ได้ร่วมงานกับ ‘แก้ม กุลกรณ์พัชร์’ ที่รับบท ‘มิเชลล์’ เป็นยังไง ตอนแรกหลายคนกังวลเคมีเรากับพี่แก้ม?
ณเดชน์ – “ผมว่าดีนะครับ เพราะแอพพรูฟโดยพี่บอยด้วย พี่แก้มเป็นนักแสดงบรอดเวย์ ความสามารถเรื่องของเสียงร้อง วิธีการต่างๆ พี่แก้มท็อปฟอร์มอยู่แล้ว ตอนแรกเรามา เราก็นึกว่าจะยากที่จะเข้าพวกกับเขา แต่สุดท้ายแล้ว เราทำงานกันด้วยทีม ทีมอัพดีมากๆ ซ้อมกับพี่แก้มหลายครั้งแล้ว พอซ้อมกันผมต้องแบ่งช่องหายใจให้ดี เพราะพี่แก้มลากเสียงยาวเหลือเกิน (หัวเราะ) ก็ต้องมองหน้ากันว่าจะงับตอนไหน แต่สนุกครับ เป็นอีกหนึ่งพาร์ตเนอร์ที่ช่วยกัน”
ดูสนุกกับงานนี้?
ณเดชน์ – “มันเป็นประสบการณ์ใหม่ ที่เราเคยดูละครเวทีมาหลายเรื่อง แล้วการที่เรามีโอกาสได้เอาตัวเองมาอยู่บนเวทีนี้ มันเป็นอีกหนึ่งความฝัน ซึ่งเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว แล้วก็อยากจะทำมันให้มีความสุขที่สุด”
การแสดง 50 กว่ารอบ เตรียมตัวเองยังไงบ้าง?
ณเดชน์ – “แค่อย่าสนุกเกินครับ พอสนุกเกินเราใส่เต็ม ผมเคยขึ้นคอนเสิร์ต 2 รอบ พอเล่นเสร็จเสียงหาย เพราะเราไม่ถนอมเสียง ไม่รู้จักการร้องที่ถูกต้อง แต่พอมาละครเวทีไม่ได้แล้ว ทุกอย่างต้องบาลานซ์ เพราะฉะนั้นการเรียนรู้วิธีการร้องที่เซฟเส้นเสียงดีที่สุด อันนี้เป็นสิ่งสำคัญ แม้กระทั่งจะเป็นการขึ้นเสียงสูง การจะลากเสียงยาวๆ มันมีเทคนิควิธีที่ทำให้เราใช้เสียงได้อีก 10 วันเต็มๆ โดยที่คุณภาพการร้องยังเหมือนเดิม”
พอมาอยู่ในกระบวนการนี้ มีติดไปกับการเล่นละครหรือหนังไหม?
ณเดชน์ – “ไม่มีครับ แต่ผมต้องวอร์มทุกเช้า จะอัดเสียงที่ครูสอนวอร์ม แล้วเป่าปาก นวดหน้า กระดกลิ้น แต่มันก็ช่วยด้วยเพราะเราต้องถ่ายละคร ต้องใช้กล้ามเนื้อ ก็เป็นผลที่ดีกับทุกอย่างในชีวิตตอนนี้”
ฝากอะไรถึงแฟนๆ หน่อย?
ณเดชน์ – “นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจ และเป็นอีกหนึ่งโปรเจ็กต์ในฝันที่ผมได้มีโอกาสเข้ามาอยู่ร่วมกับ ฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล ต้องขอบคุณทางพี่บอย ขอบคุณช่อง 3 ที่ให้โอกาสผมมาอยู่ในโปรเจ็กต์นี้ รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ที่ได้เข้ามาอยู่ในครอบครัวของละครเวที ฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล อยากฝากแฟนๆ ที่เคยดูเวอร์ชั่นแรก แล้วก็แฟนๆ ทุกคนที่อาจจะยังไม่เคยได้ดู ก็อยากให้เปิดโอกาสตรงนี้ให้ผมได้เข้าไปอยู่ในพาร์ตนึงของทุกคน”
“อยากให้ทุกคนมาดูกันเยอะๆ ละครเวที ฟ้าจรดทราย เดอะ มิวสิคัล 2024 ตอนนี้ขายบัตรแล้ว สามารถรับชมได้ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายนนี้ ที่โรงละครเมืองไทยรัชดาลัยเธียเตอร์ครับ”
จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล
ความคิดเห็น