อดีตเซ็กซี่สตาร์ "แชมเปญ เอ็กซ์" เปิดใจข่าวชีวิตลำบาก - รีวิวคู่ชีวิตหลังแต่งงานมา 20 ปี
อดีตเซ็กซี่สตาร์ตัวแม่ แชมเปญ เอ็กซ์ ที่วันนี้ออกมาเปิดใจหลังโดนเม้าท์แรงชีวิตลำบากหลังมีภาพตระเวนออกบูธขายน้ำพริก-ขายส้มตำ เคยใส่แบรนด์เนมหลักแสนแต่เดี๋ยวนี้ต้องเช่าชุดออกงาน ซ้ำร้ายยังเคยถูกลูกน้องที่ไร่โกงเงินเป็นแสนๆ ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง One31 ที่มี หนิง ปณิตา และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร
ติดตามช่อง Youtube : Orange Mama
เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาเพิ่งไปออกบูธขายส้มตำ ขายน้ำพริก ?
แชมเปญ : ใช่ ขายน้ำพริก ขายส้มตำ ขายลาบ ขายไก่ทอด ขายทุกอย่าง
ซุปตาร์ตัวแม่ เซ็กซี่สตาร์ อยู่ๆมาขายส้มตำ ?
แชมเปญ : เป็นผู้หญิงสวยแต่โง่ไม่ได้ เดี๋ยวผัวทิ้ง ฉลาดมากก็ไม่ดีเดี๋ยวเป็นทุกข์
เอาเทคนิคตำส้มตำมาจากไหน ?
แชมเปญ : พี่เป็นจิตอาสาขายส้มตำอยู่ที่เมืองกาญฯ เมื่อ 10 กว่าปีมาแล้ว เงินที่ได้มาบริจาคหมดเลย จะไปทำทุกวันอาทิตย์ พระอาจารย์พี่พี่รักษาคนไข้ฟรีด้วยสมุนไพรที่เมืองกาญฯ ที่พี่ปรียานุช ปานประดับ ไปรักษา พี่อยากจะช่วยพระอาจารย์เลยไปขอพระอาจารย์ว่าขอขายส้มตำได้ไหม พี่ทำไม่เป็นหรอก แต่ลูกน้องทำอร่อยมาก พอทำไปได้ 2 เดือนทิ้งทุ่นพี่ ไก่ 45 โล กองอยู่หลังบ้าน ข้าวเหนียวอีก 25 โล มะละกออีก 3 ถุงใหญ่ 30 โล พี่ทำไงอ่ะ พี่ก็ขนไปก่อนหมักไก่เองนึ่งเองแล้วก็ไปทำที่เมืองกาญฯ แล้วก็มีแม่ๆที่เป็นจิตอาสามาช่วย จากนั้นพี่ก็ตำมาตลอด คนก็เข้าแถวยืนรอ สะอาดด้วย
เวลาออกบูธคนจำพี่ได้ไหม ?
แชมเปญ : พี่คิดว่าเขาจำได้นะ แต่เขานึกชื่อไม่ออก บางคนก็บอกว่า คุณยู่ยี่ คงจะเห็นว่าคิ้วโก่งไง พี่ยู่ยี่เขาก็คิ้วโก่ง
นอยด์มั้ยถ้าใจทักชื่อเราผิด ?
แชมเปญ : พี่ไม่รู้สึกเลย บางทีเราจำใครไม่ได้ เราจำชื่อเขาไม่ได้ เราจำหน้าได้เราต้องให้ความเป็นกันเองกับเขา เขาจะได้ไม่เสียเซลฟ์ อย่างน้อยพี่คิดว่าเขามาทักพี่เขายังจำพี่ได้ถึงจะจำชื่อไม่ได้แต่จำส่วนใดส่วนหนึ่งของพี่ได้มันก็ดี เป็นสิ่งที่พี่ภาคภูมิใจมากแล้ว
ไม่ได้ทำงานในวงการมานานเทม่าไหร่แล้ว ?
แชมเปญ : 20 ปีได้ คิดถึงนะ เป็นงานที่ทำให้เรามีชื่อเสียง ทำให้เรามีรายได้ แต่เดี๋ยวนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว พี่ยังรับงานเป็นเซเลบกับแบรนด์สปาหรือคลีนิคอยู่
ก็มีงานติดต่อเข้ามาบ้าง ?
แชมเปญ : แทบจะไม่มีเลย เพราะพี่ไม่ได้เจอคน คนก็อาจจะลืม
ถ้ามีละครติดต่อมาพี่รับมั้ย ?
แชมเปญ : รับซิคะ รับหมดเลยพี่ทำอะไรก็ได้ ทุกวันนี้ก็ทำได้ทุกสิ่งทุกอย่าง
วันนึงพี่ไปอยู่ป่าอยู่เขามันต่างกันมั้ย ?
แชมเปญ : ต่างกันค่ะ มันงานหนักต้องตากแดด แต่ว่าพี่เป็นคนชอบแดดอยู่แล้ว พี่ทำนาพี่หว่านข้าวต้องทำเอง ต้องเรียนรู้ อีกหน่อยชาวนาไม่ทำนากันแล้วนะ เราจะไม่มีข้าวกินกันแล้วนะ มีทองเยอะๆมีตังค์เยอะก็ซื้อข้าวไม่ได้แล้วนะเพราะไม่มีใครขายให้เรา
ทำไมเลือกชีวิตไปทำเกษตรกรรม มีความนสุขยังไง ?
แชมเปญ : อันดับแรกเลยพี่นึกถึงพ่อพี่แล้วพี่ก็รักในหลวงรัชกาลที่ 9 ของพี่มาก พี่คิดว่าการเกษตรมันจะอยู่ได้ พี่ถึงบอกว่าอนาคตคนเรามีตังค์ก็ไม่มีข้าวกินเพราะไม่รู้ซื้อที่ไหนเพราะไม่มีใครทำข้าวให้เราแล้ว ฉะนั้นแล้วการเกศตรเราจะอยู่ได้ อย่างพี่ไม่ม่ตังค์ซักบาทอยู่ที่ไร่พี่ก็ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เพราะพี่ก็ไม่ได้ทานข้าวเยอะวันนึงกินวันละ 3 ช้อนโต๊ะกับสามีพี่ เรามีข้าวเรายังประทังชีวิตได้อีกนาน
พี่ทำเกษตรกรรมพี่ได้เอาออกมาจำหน่ายมั้ย ?
แชมเปญ : มันมีน้อย ทำไว้กินเองเหลือก็แจกจ่าย เหลือก็ขาย ขายได้ 400-500 โล เราไม่ใช่ชาวนาอาชีพเขาทำได้เป็นตันๆ พี่ตั้งใจเป็นมืออาชีพแหละแต่มันได้น้อยเพราะว่าที่ไร่พี่ไม่มีสารเคมีเวลาพี่ปลูกข้าวนกมันมากินของพี่หมดเลย
พี่ไม่คิดถึงแบรนด์เนมหรอ ?
แชมเปญ : ไม่คิดถึงเลย พี่ใช้อะไรก็ได้ไม่ต้องแบรนด์เนม
พี่เป็นคนสวยมากตั้งแต่หัวจรดเท้าเป๊ะมากเหมือนออกมาจากรันเวย์มันหายไปหมดแล้วของพวกนั้น ?
แชมเปญ : ก็เก็บไว้ในลิ้นชักในเก๊ะแล้วอากาศบ้านเรามันร้อนมันก็พังไป ถามว่าจะไปซ่อมทำไม ซ่อมทีเจ็ดแปดหันหมื่นนึง…เพื่อ ? ทิ้งๆมันไป จะยึดติดกับมันทำไม เดี๋ยวพี่ใส่เสื้อผ้าตัวล่ะไม่กี่ร้อย
จุดเปลี่ยนแปลงคืออะไร ?
แชมเปญ : อยู่แบบพอเพียง ก็มันไม่ค่อยมีตังค์ เงินเดือนสามีพี่ก็ลงไร่หมด ทุกอย่างมันเป็นการลงทุนตรงนั้นหมดเลย มันเป็นที่ของเราเราก็ปรับปรุงให้มันดูน่าอยู่ จริงๆพี่เป็นคนอยู่ง่ายนะสามารถปรับตัวได้ทันทีเลย อย่างได้ที่มาพี่ไม่เอานะ แม่สามีให้พี่มาพี่บอกว่าไม่เอาพี่ทำไม่เป็นพี่ไม่ทำเพราะว่าเราไม่มีภาระแล้ว ชีวิตพี่แค่อยากกินอยู่ไปวันๆเราทำหน้าที่้เป็นลูกที่ดีหมดแล้ว แต่พอมีเราก็ต้องสานต่อถ้าขายไปสี่ห้าหกสิบล้านวันใดวันหนึ่งมันก็หมด เราก็สร้างมูลค่าเพิ่มให้ที่ดินเราดีกว่า พี่ยังไม่ได้ง่อยเปลี้ยเสียขา พี่ยังไม่แรงมีสมอง พี่ทำอะไรได้ก็ทำให้มันเกิดประโยชน์กับเรา เกิดประโยชน์กับคนรอบข้าง เกิดประโยชน์ต่อสังคม ชีวิตพี่เป็นจิตอาสาแบบนี้
เห็นว่าออกงานทีต้องเช่าชุด ?
แชมเปญ : เช่าซิ ไปซื้อทำไมล่ะ ไม่อยากไปเลยถ้าไม่จำเป็น ไม่อยากไปงานไหนเลยจริงๆ สมัยก่อนออกงานทุ่มทุนจะตายออกงานทีสามสี่หมื่น งานที่เขาเชิญเราไปอย่างงานแต่งงานไปก็ต้องใส่ซองใส่น้อยก็ไม่ได้เพราะเป็น แชมเปญ เอ็กซ์ ชุดไม่สวยก็ไม่ได้ก็ต้องทุ่มทุนซื้อตัดเพราะเป็น แชมเปญ เอ็กซ์ เดี๋ยวนี้แชมเปญ เอ็กซ์ คืออะไรก็แค่ชื่อ
งานที่จำเป็นต้องไปก็คือไป ?
แชมเปญ : ก็ต้องไป ก็ต้องเช่าชุดแต่อย่าแพง อย่ามามีธีมเลยไปได้ก็ไปให้ก็บุญแล้ว ไปธีมกันเองเหอะ เราไม่ได้มีสตางค์เหลือเฟือที่จะหาอะไรมากมาย หาได้ดูได้ไม่ขี้เหร่ เราเป็นแชมเปญ เอ็กซ์ อยู่แล้วใส่อะไรก็เป็น แชมเปญ เอ็กซ์
มีคนกลุ่มนึงมองว่าชีวิตลำบากตกต่ำหรือเปล่า ?
แชมเปญ : เขาคิดอย่างงี้เราก็อย่าไปคิดกับเขา เราไปอะไรกับความคิดคนอื่นไม่ได้ มันเป็นเรื่องของเขา เราจะทำอะไรมันก็เรื่องของเราจะคิดอะไรก็เรื่องของมึง ชีวิตใครชีวิตมัน อย่าไปคิดแค้นอะไร พี่ไม่เคยไปตามอ่านเลยใครมาว่า
พี่อยากจะแก้ข่าวมั้ยว่าชีวิตพี่ไม่ได้ลำบากอะไร ?
แชมเปญ : ถ้าถามพี่พี่ไม่แก้หรอก แล้วแต่จะคิด พี่เป็นของพี่แบบนี้ พี่อยู่แบบนี้พี่มีความมสุข พี่ได้คู่ครองที่ดีมีครอบครัวดี ถึงแม่พี่จะไม่มีสตางค์ใช้จ่ายมากมายแต่พี่ก็มีความสุข กินก็แค่อิ่ม เสื้อผ้าไม่ต้องแพงมากมาย รวยแล้วไปไหน เอาตังค์ไปไม่ได้ซักคน มาคนเดียวไปคนเดียว
รีวิวสามีให้ฟังหน่อย ?
แชมเปญ : แต่งงานมา 20 กว่าปีแล้ว ก็ยังน่ารักเหมือนเดิมเป็นผู้ชายที่อดทนมากที่สุดในโลกที่ทนแชมเปญ เอ็กซ์ ได้ เมื่อก่อนพี่อารมณ์ร้อนจะตาย ตีเป็นตี ฟาดเป็นฟาด แต่พี่เปลี่ยนไปเพราะพี่ไปฝึกปฎิบัติธรรมพี่ไปฝึกนิสัย ละ ลด เลิก นิสัยที่เราชอบชี้นิ้วใช้คนก็หยุดซะ
ตั้งเป้าไว้ปีนึงจะบวชให้ได้กี่ครั้ง ?
แชมเปญ : พี่อยากจะทำมากกว่านั้นแต่ด้วยโอกาส 3 ครั้งต่อปี มันเป็นหน้าที่พี่อยู่แล้ว
เห็นว่าเกือบตาบอดเพราะไปบวชเกิดอะไรขึ้น ?
แชมเปญ : ไม่ใช่ พี่ไปทำงานที่ภูเก็ตแล้วพี่ก็ดื่มเยอะแล้วก็พักผ่อนน้อยแล้วก็เป็นงูสวัดขึ้นที่ตาเป็นแผลพุพองขึ้นที่ตา เมื่อเข้าพรรษาปีที่แล้ว ไปหาหมอเขาบอกว่าเป็นไวรัสก็คืองูสวัดเหมือนอีสุกอีใสนั่นแหละ คนก็พูดว่าเข้าตาไม่ได้นะตาบอดนะ แต่ว่าพี่ก็อยู่ในวัดใช้ชีวิตตามปกติ กินสมุนไพรไปด้วยถึงเวลาเขาก็หาย พวกนี้เขาจะมาเองหายเอง มันไม่มียารักษา ต้องพักผ่อนนอนให้เยอะๆ
ถูกลูกน้องโกง ?
แชมเปญ : เขาเป็นผัวเมียกันนะ บางทีให้ตัดหญ้า ถ่ายรูปโชว์แล้วก็ไปเบิกตังค์ก่อนจะออกดักปลาพี่ทอดแห 8 วัน 8 คืน เอาไปให้ได้มากที่สุด หน่อไม้อีกเอาไปขาย ผุ้าปูที่นอนก็เอาไป ถ้าเป็นเงินก็ประมาณเป็นแสนแหละเพราะว่า 8 ปี เพราะว่าทยอยเอา แต่ก็ทำใจเพราะเราไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วยตัวเรา เราจ้างเขาเฝ้าก็มีทุกยุคทุกสมัย พี่ถือว่าถ้าเขาเอาของพี่ไปแล้วเอาไปให้ประโยชน์กับครอบครัวเอาไปกินเอาไปใช้ประทังสังขารได้ก็ถือว่าทำบุญไป มีทางเดียวก็คือทำใจ ทุกวันนี้พี่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคร้ายแรงยังแข็งแรงอยู่ สามีพี่ก็ยังแข็งแรงอยู่ มีคู่ครองกรรมที่ดี มีคู่ควรที่ดีนั่นก็คือมันพอแล้ว แต่ปัญหาอย่างอื่นที่มันมาก็ต้องรับไว้บ้าง ก็เป็นวิบากกรรมก็รับไว้บ้าง ไม่ได้แจ้งความเพราะมันไม่มีหลักฐานไปเอาหน่อไม้ตรงไหน เดี๋ยวนี้พี่ติดกล้องไว้ทั่วหมดเลย ก็ห้ามบุรุกถ้ากล้องจับได้ว่าคนเข้ามาพี่ก็พร้อมจับได้เลย
ติดตามชมรายการคุยแซ่บ Show ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
ความคิดเห็น