มศว.แตก! แฟนคลับหลายพันร่วมยินดี “ออม กรณ์นภัส” รับปริญญา เปย์เงิน-ทองคำหลักล้าน
นักแสดงสาว“ออม กรณ์นภัส” คว้าใบปริญญาสำเร็จ มศว.แตก! แฟนคลับหลายพันร่วมยินดี เปย์เงิน-ทองคำ หลักล้าน ขอบคุณทุกแรงซัพพอร์ต จะนำไปทำบุญต่อ
ทั้งสวยทั้งเก่งจริงๆ สำหรับนักแสดงสาวสวย “ออม กรณ์นภัส” ที่คว้าใบปริญญามานอนกอดได้สำเร็จ หลังเรียนจบปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เท่านั้นไม่พอนักแสดงสาว “ออม กรณ์นภัส” นั้นสุดขยัน กำลังเรียนต่อปริญญาโทอีกด้วย
ล่าสุดวันที่ 25 พ.ย. นักแสดงสาว “ออม กรณ์นภัส” ได้เข้าร่วมพิธีซ้อมใหญ่รับพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา 2566 ที่ อาคารกีฬา 2 ม.ศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์ จังหวัดนครนายก หลังจากซ้อมเสร็จ ก่อนพบปะแฟนคลับ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า
“ออมตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อมาแต่งหน้าที่องครักษ์เพื่อเข้าหอประชุมซ้อม คือของออมจะเป็นรอบ 11 โมง เรามาถึงนี่ 11 โมง แต่ว่าแฟนคลับมาก่อนเราอีก แล้วบรรยากาศของการรวมพลครั้งนี้คือใหญ่มาก คิดว่าแฟนมีต (ยอด 2500 คน?) โอ้โห ก็คือแฟนมีตเลย
ขอขอบคุณมากๆนะคะที่สละเวลามาให้ แล้วคือดูของขวัญสิ คือมันไม่ใช่แค่จับเอามาวางอ่ะ มันต้องมีการเตรียมการแบบล่วงหน้ามากๆในการประสานงาน ก็ต้องขอขอบคุณในทุกแรงกายแรงใจจริงๆค่ะ
เห็นในโซเชียลแล้วเขาบอกว่าโอ้โหใหญ่ที่สุดใน มศว. เลยนะ หมายถึงเล่นใหญ่สุดใน มศว. เลย ก็มีหลายคนแต่งตัวเป็นคุณแม่ แต่งชุดไทยแล้วก็ตีฟาร่างูเห่า
ก็วันนี้ดีใจนะคะ ที่มีคนที่เพิ่งรู้จักเรา แล้วก็รู้จักเรามานานแล้ว ขอขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันมา เสมอไม่ว่าตัวจะมาหรือว่าตัวจะอยู่บ้านหรือจะอยู่ในโซเชียลคอยกดไลค์ให้เราตลอด คือไม่เป็นไรเลยค่ะ คือจะอยู่ไหนก็คือเป็นกำลังใจให้เรา”
เราคิดไหมว่าวันที่เราเรียนจบจะมีคนมาแสดงความยินดีกับเราเยอะขนาดนี้?
“ไม่เคยคิดเลยค่ะ คือตอนแรกเรียนจบก็คือคิดว่า อ๋อ เดี๋ยวคงมีแฟนๆมายืนรอบๆเราไม่คิดว่าจะได้ปิดฮอลล์แบบนี้ มันยิ่งใหญ่มากค่ะ”
ตอนนี้การเรียนลุล่วงแล้วเป็นยังไงบ้าง?
“ก็สำเร็จลุล่วง สำหรับ ป.ตรี คณะเศรษฐศาสตร์หลักสูตรนานาชาติค่ะ แล้วตอนนี้เราต่อ ป.โท ต่อเลยค่ะ คือเราได้ทุนมาเราเรียนฟิล์มอยู่ ก็หวังว่าจะได้เอาไปใช้ในอนาคต จริงๆอ่ะมันคือคณะนวัตกรรม เอกสื่อเพื่อสังคม มันก็จะมีทำหนังเบื้องหลังในการเริ่มต้นที่จะทำกองขึ้นมาค่ะ ก็เริ่มเรียนรู้ใหม่ เพราะว่าปกติเราก็เรียนแต่เบื้องหน้า แอ็คติ้ง ก็เรียนต่อที่นี่เลยค่ะ”
ความคิดนี้เกิดขึ้นเพราะว่าเราได้เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยหรือเปล่า?
“ใช่ค่ะ คือตอนแรกอ่ะหนูเรียนเศรษฐศาสตร์ ก็เผื่อไปช่วยทำงานที่บ้าน เพราะว่าเราก็ไม่เคยคิดว่าเราจะเป็นนักแสดงมาก่อนเหมือนกัน แต่พอเรียนเสร็จปุ๊บดันได้เป็นนักแสดง งั้นเราก็เลยคิดว่าเดี๋ยวหาเสริมดีกว่า เบื้องหลัง อยากเรียนเบื้องหลังบ้าง ก็เลยเรียน”
แล้วต่อเรียนต่อโทจะมีเวลาไหม?
“ก็คือไม่ค่อย แต่ว่าเราก็จะใช้วิธีการลงเรียนให้มันไม่ตรงกับงานเรา แล้วก็บอกอาจารย์ว่าถ้าหนูขาด เดี๋ยวหนูจะไปเรียนชดนะคะหรือว่าหนูจะทำงานส่งชดเชยให้นะคะทำรูปเล่มส่งแทนให้ค่ะ แล้วก็ต้องขอบคุณเพื่อนๆ แล้วก็อาจารย์ทุกคนที่คอยซัพพอร์ตเราด้วย
เขาอยากให้เราเรียนแล้วก็ตัวเราก็อยากเรียน เขาก็ซัพพอร์ตเต็มที่เลยค่ะ อีกปีนึงก็จบแล้วค่ะถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนอีกปีนิดๆก็จะจบแล้วค่ะ คือตอนเนี่ยออมก็ยังเรียนอยู่ค่ะ เปิดเทอมอยู่ ด้านแม่ก้อยก็ซัพพอร์ตอยู่แล้ว ก็เราได้ทุนไง แม่ก็เลยบอก ไปเลยไปเลย แม่ไม่ได้เสียค่าเทอม ก็เรียนเลย“
จริงๆจะเป็น ”ด็อกเตอร์ กรณ์นภัส “เลยไหม?
“เดี๋ยวดูก่อนค่ะ เพราะว่าเพื่อนๆแม่ก็คอยสนับสนุนอยู่แล้วในการเรียน เดี๋ยวดูกันค่ะว่าถ้าไปถึงด็อกเตอร์ก็ดีค่ะ”
แล้วเรียนจบเศรษฐศาสตร์มา เรียนไม่ได้ง่ายเลย?
“ก็มีอาจารย์กับเพื่อนคอยช่วยค่ะ เพื่อนคอยตามงานเหมือนแม่เลย แล้วอาจารย์ก็คือก็ กรณ์นภัสส่งหรือยังวันนี้ จะมาเรียนหรือเปล่า? อาจารย์เขาหวังดีและน่ารักกับเรามากเคี่ยวเข็ญเรามากค่ะ”
แล้วอยากขอบคุณใครบ้าง?
“อย่างแรกเลยคือครอบครัวที่คอยซัพพอร์ตเราเสมอ และครูบาอาจารย์ที่เข้าใจเรา เพื่อนๆที่เข้าใจเราเหมือนกัน แล้วก็คอยตามเราคอยซัพพอร์ตเราแฟนคลับที่ทำให้เรามาถึงวันนี้ได้ให้เราทำทุกอย่างไปพร้อมกันได้
ซึ่งตอนถ่ายละคร ใจซ่อนรัก เป็นช่วงที่ออมจบแล้ว ทำธีสิส แล้วทุกคนในกองอ่ะก็คือจะรู้เลยว่าออมจะไปหลับในกองเยอะมาก เพราะว่าเป็นช่วงที่เรียนจนไม่ค่อยได้นอน คือมันอาจจะไม่ได้หนักขนาดนั้น แต่อาจจะเกิดจากการดินพอกหางหมู มันทำรายงานจนดึก”
แล้วใบรับปริญญาใบนี้สำคัญกับครอบครัวยังไงบ้าง?
“จริงๆครอบครัวออมไม่ได้อะไรกับโอกาสพิเศษอะไรเลย แต่ก็คือลูกเรียนจบยินดีด้วย อยากให้ของขวัญอะไรก็คือให้ไม่จำเป็นจะต้องมีโอกาสพิเศษก็ให้เลยให้ได้”
ไม่ได้เข้มงวดว่าถ้าลูกจบเศรษฐศาสตร์แล้วจะต้องมาช่วยงานที่บ้าน?
“ไม่เข้มงวดเลยค่ะ ก็ดีใจเหมือนกันที่ครอบครัวเขาเข้าใจเราทุกอย่างคุณจะเรียนอะไรคุณก็เรียนเลย แล้ววันจบ ป่ะป๊าไปเชียร์แค่นั้นเองเลย แล้วก็วันนี้ป่ะป๊าก็มา นานๆทีป่ะป๊าจะมางานแบบแฟนมีตแบบนี้”
พูดถึงของขวัญหน่อย?
“คือของขวัญน่ะเรื่องใหญ่มาก คือออมก็ไม่รู้ว่าเขารักเรามากเลยนะแฟนๆ อุตส่าห์ทำขนาดนี้ ก็คือไม่ใช่คนให้นะ คนที่มาประสานงานจัดอ่ะ มีหมดเลยค่ะ (เงินทองทองคำ)”
แล้วเราจะบริหารเงินตรงนี้ยังไงบ้าง?
“คือถ้าเงินที่เราทำงานมาแล้วก็เงินที่แฟนขับให้ เราเก็บไว้หมดเลย ถ้ามีโอกาสให้คนได้มีโอกาสบริจาคได้ก็คือบริจาค เหมือนช่วงที่น้ำท่วมหนูก็บริจาคไป แล้วก็มีอะไรเยอะแยะเต็มไปหมดแม่เมเนสหมดเลยค่ะ
หนูก็บริจาคอยู่เรื่อยๆ ก็คือเหมือนมีใครสักคนนึงที่พูดว่า เรารับอย่างเดียวไม่ได้เราต้องให้ด้วย ใจบุญ แฟนๆก็จะได้ได้รับบุญด้วย ขอบคุณจริงๆนะคะแม่ๆ ไม่ว่าจะของอะไรก็แล้วแต่ แล้วก็เอาไปทำประโยชน์ด้วยนะขอบคุณจริงๆค่ะ”
หลิงหลิงซัพพอร์ตเรายังไงบ้าง?
“ซัพพอร์ต เป็นพาร์ทเนอร์ในการทำงานที่เราเจอบ่อย กลายเป็นสนิทกันมากๆ เขาอยู่ตรงนั้นคอยซัพพอร์ตเราเสมอ เราก็จะยกหูหาเจเจ้ว่างไหมช่วยหน่อยสิ คือมันคือสนิทกันขนาดนั้นแล้ว มันคือเพื่อนที่ซัพพอร์ตกันประมาณนั้นแล้ว
ก็ไม่ได้โทรเรื่องเครียดอย่างเดียว เรื่องเล่นก็มี อย่างเช่นเจเจ้แนะนำร้านอาหารหน่อย ก็คือบ่อย อย่างล่าสุดก็ไปซื้อตามเจเจ้ว่ารองเท้ารับปริญญาแบรนด์ไหนมีแนะนำไหม แต่ว่าซื้อมาแล้วใส่ไม่ได้ เพราะว่ามันเป็นต้องเป็นหนังด้านห้ามโลหะ ก็ไปซื้อตามที่เจเจ้ และคือใส่ไปเมื่อวานใส่วันซ้อมใส่เอาสวยถ่ายรูปจบ”
เขาให้ของจสัญอะไร?
“ให้ดอกไม้ ช่อใหญ่สุกในร้านดอกไม้เขา มีทุกสีทุกแบบรีเรทถึงเรา ขอบคุณสำหรับความใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ตอนนี้ดอกไม้อยู่ที่บ้านไม่ได้อยู่ในห้องนอน เพราะว่าออมแพ้เกษรแต่ว่าอยู่ในแจกัน”
ขอบคุณแหล่งที่มา : khaosod
ความคิดเห็น