บันเทิง

- เลยจับมือกับ วิลลี่ คนละครึ่ง ทุกอย่างจากนี้ไปจนหมด เรา 2 คนอะไรก็ได้ คนละครึ่ง ขายทุกอย่างจนเกือบหมดตัวก็ยังไม่พอจ่ายหนี้

- จากวันนั้นเราทั้ง 2 คนไม่สามารถเป็นเจ้าของบริษัทได้แล้ว ต้องไปทำงานรับจ้าง มาเป็นนักแสดง เป็นพิธีกรรับจ้าง เอาเงินตรงนั้นเข้ามา

- ทำงานเหมือนคนบ้า จนถูกทักว่าทำงานเหมือนเป็นวันสุดท้าย ซึ่งก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใคร

- ทำงานไปเรื่อยๆ จนครบ 4 ปี สุดท้ายก็ใช้หนี้ได้หมด รู้สึกภูมิใจมาก มองหน้ากันแล้วบอกว่า เราเจ๋งมาก

- ฝากเตือนถึงคนที่คิดจะทำอะไร อย่ายืมจมูกคนอื่นหายใจ ไม่อย่างนั้นมันจะเกิดอาการขมคอได้

- ทุกอย่างที่ผ่านมา เหนื่อยมาก ทำงานมา 4 ปีเพื่อใช้หนี้ เห็นแต่งานแต่ไม่เคยเห็นเงินเลย

- ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะใช้หนี้ 106 ล้านได้หมด

- ยกให้ วิลลี่ เป็นสุภาพบุรุษสุดๆ บางทีเราไม่ไหว เขาก็ยกของเขาให้ไปก่อน สุดท้ายแล้วเราไม่นึกว่าหนี้เราจะหมด โคตรดีใจเลย แม้ว่ามาตอนนี้หนี้จะเหลือก้อนนิดเดียว แต่หนี้ก้อนใหญ่ได้หมดไปแล้ว

- จากนี้จะทำอะไร จะไม่ยืมจมูกคนอื่นหายใจอีก เราจะทำด้วยตัวเอง

- 4 ปีที่ผ่านมา ทำงานไม่มีวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ สแตนด์บายรอรับงานตลอด แล้วทำงานโดยที่เราต้องสนุกกับมัน และต้องไม่เสียดายเงินที่เราต้องใช้คืนเขา

- เสนาหอย พูดต่อว่า หลายคนอาจมองว่า มีเพื่อนเยอะๆ มันดี แต่สำหรับตัวเอง มีเพื่อนแค่คนเดียวก็เพียงพอแล้ว มีคนบอกการทำธุรกิจกับเพื่อน หรือครอบครัว มันมีโอกาสล้มได้สูงมาก เพราะเรื่องเงินจะทำร้ายคุณในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ผมรู้สึกเขากับผม เรื่องเงิน ไม่ได้รู้สึก บางครั้งเรามีเราใช้ก่อน รู้สึกดีใจที่มีเพื่อนแบบนี้ เชื่อว่าถ้าวันนั้นเป็นอีกแบบชีวิตเราไม่เหนื่อยและไม่มีความสุข แต่มีชีวิตแบบนี้มันดี เรามีความสุขและเราไม่ได้โกงใคร แต่ใช้ระยะเวลาหน่อย

- ขอบคุณเจ้าหนี้ที่เขารอเรา ถ้าเขาไม่ให้โอกาสเรา ไม่รอเราและฟ้องเรา เราทุกคนคงล้มละลาย ไม่มีโอกาสทำงานก็ได้

- ที่ผ่านมาร้องไห้ทุกวัน นอนไม่หลับ คิดทุกวันว่าจะจัดการยังไงดี ค่อยๆ ไปทีละขั้น ตอนนั้นเหนื่อยสุดๆ แต่สุดท้ายมันก็มีรอยยิ้ม มีวันจบ