บันเทิง

- ตอบ
โพสต์ต้นฉบับ
ชื่อ: พี่ชาย แน็ก เคลียร์น้องส่งเรียน ตอบคนว่าทำครอบครัวเดือดร้อน แล้ว คุณ ช. มีข่าวกี่รอบปีนี้
พี่ชาย แน็ก เคลียร์น้องส่งเรียน ตอบคนว่าทำครอบครัวเดือดร้อน แล้ว คุณ ช. มีข่าวกี่รอบปีนี้

ไม่อยากดังจากดราม่า พี่ชาย แน็ก ขอพูดตรงๆ กระทบหมด ตอบคนว่าทำครอบครัวเสื่อมเสียเดือดร้อน ย้อนถามในรอบปี คุณ ช. มีข่าวมากี่รอบแล้ว เคลียร์ชัดปมน้องส่งเรียน

ดราม่าระอุกันทั้งบ้านอยู่ตอนนี้ กรณี แน็ก ชาลี กับ 4พี่สาว หรือ 4ป้า หลังจากกระแสคอมเมนต์ไปโจมตี 4 ป้า ที่แยกตัวไปจาก แน็ก ชาลี ทำช่องติ๊กต็อก 4aunts กับอดีตผู้จัดการของแน็ก เพื่อขายของหาเงินกันเอง กลับถูกต่อว่าต่างๆ นานา จนสุดทนต้องออกมาตอบโต้ไปก่อนหน้านี้

ล่าสุด ตึ๊ง อัลเบิร์ต ปอทเจส นักแปล-นักเขียน พี่ชายคนโตของ แน็ก ชาลี ก็ออกมาโพสต์ร่ายยาวถึงเรื่องราวดราม่าดังกล่าว พร้อมชี้แจงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวเองว่า

“ทีแรกผมคิดว่าจะเงียบ ๆ ไปเลย เพราะไม่อยากดังจาก Drama อะไรแบบนี้ แล้วพูดตรง ๆ ตอนนี้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมันก็กระทบกับทุกคนนั่นแหละ #แต่ ที่คิดว่าควรจะพูด ก็เพราะมีบางคนพยายามพาดพิง หรือถามถึง เลยขอชี้แจงไว้ตรงจุดนี้ เท่าที่สามารถ”

 

 

 

“#ผมทำอะไร?
– คือผมมีงานที่ผมทำอยู่ เป็นงานสุจริตครับ เป็นนักแปล/นักเขียน และอื่น ๆ อีกมากมายที่เราทำได้ แม้จะไม่ได้เงินเยอะ แต่เราก็พยายามดูแลรับผิดชอบชีวิตตัวเอง ทุกวันนี้ก็ยังทำงานหาเงินจ่ายค่าอยู่ค่ากิน ค่าอพาร์ตเมนต์ มีเท่าไหร่ใช้เท่านั้น ไม่ได้เป็นคนฟุ่มเฟือยครับ อยู่ตามอัตภาพ
ซึ่งผมก็คิดว่ามันไม่ควรจะ #ด้อยค่า งานที่ใครทำ ไม่ว่าจะทำงานอะไร ทุกงานก็อาจจะมีคุณค่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ในตัวมันเอง ”

“#แล้วคุณไม่ช่วยงาน ช เลยหรือ?
– เมื่อนานมาแล้ว ผมเคยช่วยนะครับ แต่ด้วยความเป็นธุรกิจครอบครัวซึ่งการจัดการบางอย่างก็ไม่มืออาชีพ บางงานก็ทำฟรีเลยด้วยซ้ำ เห็นว่าเป็นครอบครัวก็ช่วย ๆ กัน แล้วผมก็เข้าใจว่ามันไม่มีใครควรมาแบกใคร โต ๆ กันแล้ว มีมือมีตีน ก็ต้องพยายามดิ้นรนกันด้วยตัวเอง”

“#ซึ่ง มันเคยมีจุดนึง ที่กระทบกระเทือนทั้งจิตใจและความเป็นอยู่ของผม ผมเลยเลือกที่จะ Walk Out (เดินออกมา) จากตรงนั้น ต่างคนต่างอยู่”

“แล้วที่เคยมีใครเป็นคนพูดว่า ช ส่งเสียค่าเล่าเรียนอะไรนั่น? คือผมเรียนจบ ป.ตรี ก่อนที่คุณ ช จะมีผลงานดังนะครับ สมัยก่อนครอบครัวเราไม่ได้สบาย ตอนนั้นผมเป็นนักเรียนทุน ปิดเทอมก็ไปทำงานพิเศษ ตอนเรียน ป.โท ผมก็ใช้เงินเก็บตัวเองเป็นส่วนใหญ่ครับ ก็ทำงานควบไปด้วยเช่นกัน”

“#แล้วทำไมถึงออกมาพูด
– ผมคิดว่ากลุ่มพี่สาว (4 Aunts) เขาก็พยายามที่จะยืนด้วยขาตัวเองไง เขาจะร่วมงานกับใครก็เป็นสิทธิของเขา ตราบที่ไม่ได้ผิดกฎหมาย ซึ่งก็ไม่ควรที่จะมีใครไปก่อกวนหรือปั่นป่วนเขา”

“ใครจะว่าเรื่อง #ผลประโยชน์ ผมก็คิดว่าเราปฏิเสธไม่ได้ที่โลกทุกวันนี้เราก็ต้องใช้จ่าย หลายคนมีภาระต้องเลี้ยงดูตัวเอง ครอบครัว ลูกหลาน ทุกคนทำงานแลกเงินครับ ไม่ควรมีใครที่ทำงานแล้วต้องมาถูกทวงบุญคุณ หรือเป็นที่รองรับทางอารมณ์ของใคร”

“แล้วซึ่งการ Cyberbully (ก่อกวน รังควาญ) เอาจริงก็ไม่ควรมีใครถูกกระทำครับ หรือจะเป็นการทำร้ายทั้งในเชิงวาจา จิตใจ ร่างกาย ไม่ควรมีใครถูกกระทำทั้งนั้น ”

“ผมเลยคิดว่าผมควรจะ Speak Out ในสิ่งที่ผมสามารถพูดได้
มีคนพูดว่า “ผมเป็นส่วนที่ทำให้ครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียง เดือดร้อน” ผมก็ต้องย้อนถามไปว่า แล้วในรอบปีคุณ ช มีข่าวมากี่รอบแล้ว? ซึ่งทุกคนในครอบครัวก็ได้รับผลกระทบกันหมด แม้แต่ผมเองที่เฟดตัวเองมานาน ต่อให้พยายามอยู่ห่าง ๆ แต่ทุกครั้งที่มีข่าวก็จะมีคนที่ทำงานมาถามผมนู่นนี่นั่น ซึ่งเอาจริงมันก็รู้สึกไม่ดีนั่นแหละ ”

“ในฐานะคน ๆ หนึ่ง หรือสังคม เราควรจะได้รับบทเรียนจากตรงนี้ไหม ส่วนตัวผมว่าเรื่อง #ความสัมพันธ์ เป็นเรื่องปกตินะที่คนเราคบหากันแล้วอาจจะเข้ากันไม่ได้ มีความจำเป็นต้องเลิก (ยุติความสัมพันธ์) แต่เราจะจัดการกับสิ่งนั้นยังไง? ไม่ใช่ว่าเลิกกันแล้วไปพูดวิจารณ์อีกฝั่งในทางลบ หรือจบความสัมพันธ์แบบมีปัญหา แล้วก็ไม่ถอดบทเรียน ปล่อยให้เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เคส 1, 2 แล้วก็ยังมี 3, 4 อันนี้ก็ควรถามใจตัวเองแล้วว่าต้นเหตุของปัญหาคืออะไร?”

“#หมายเหตุ ออกตัวไว้ก่อนเลย ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ผมยอมรับว่าผมก็ไม่ใช่คนดีครับ เคยผิดพลาด เคยทำร้ายคนอื่นในทางวาจาหรือจิตใจเช่นกัน และรู้สึกผิด ก็พยายามถอดบทเรียนเพื่อที่จะได้ไม่ให้ทำผิดซ้ำ ๆ อีก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณแหล่งที่มา :  khaosod