บันเทิง

- ตอบ
โพสต์ต้นฉบับ
ชื่อ: นัท มีเรีย สู้มาก เผยเหตุซูบผอมเป็นเนื้องอกใหญ่ เพราะทำเด็กหลอดแก้วถึง4ครั้ง

นัท มีเรีย สู้มาก เผยเหตุซูบผอมเป็นเนื้องอกค่อนข้างใหญ่ เพราะทำเด็กหลอดแก้วถึง4ครั้ง รับ15ปีมีทั้งสุขทุกข์ ยากมั้ยในการตัดสินใจ ขอบคุณทุกกำลังใจที่เป็นห่วง

ออกมาเปิดใจครั้งแรกในหลายเรื่องการเลิกราเหตุเกิดสักพักแล้ว นัท มีเรีย ยังได้อัพเดตเรื่องสุขภาพ ที่หลายคนเป็นห่วงว่าผอมไปนั้น เพราะมีเนื้องอกที่ท้องน้อย จากการที่เคยผ่านการทำเด็กหลอดแก้วมา 4 ครั้ง ยังไม่ถึงขั้นต้องผ่าตัด

อ่านข่าว – ระอุ อั้ม อธิชาติ โพสต์ล่าสุดหลัง นัท มีเรีย เปิดใจเลิกสามี ฝ่ายชายไปอยู่ที่ไหนแล้ว

นัท มีเรีย เปิดใจครั้งแรก ยอมรับว่าได้เลิกรากับสามีหนุ่ม อั้ม อธิชาติ ยุติความสัมพันธ์ในฐานะสามีภรรยา เป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกันแล้ว ไม่ลงรายละเอียดสาเหตุที่เลิก ไม่ได้หย่าเพราะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ส่วนเรื่องโยงบุคคลที่สาม อยู่นอกเหนือการควบคุม เข้าใจสถานการณ์เป็นธรรมดาที่คนจะตีความ สำหรับช่วงเวลา 15 ปี คบกัน 5 ปี แต่งงาน 10 ปี มีทั้งสุขและทุกข์ เรื่องที่ฝ่าฟันมาด้วยกัน แต่เมื่อถึงจุดที่ต้องแยกย้ายกันเดิน เป็นเรื่องปกติไม่มีอะไรผิด สภาพจิตใจตอนนี้มีความสุขดี ขอบคุณทุกกำลังใจ ความห่วงใยจากทุกคนที่ส่งมาให้ตน ทุกอย่างเกิดขึ้นดีเสมอ

ข่าวอักษรย่อคู่รักเลิกกัน เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว คนโยงว่าเป็นคู่ อั้ม-นัท ?
“แล้วแต่ใครจะคิดตีความเลย ห้ามความคิดใครไม่ได้จริงๆ ถ้าให้พูด ณ วันนี้มีโอกาสได้พูดแล้ว ก็ขออนุญาตแจ้งพี่ๆ น้อง ๆ สื่อมวลชนและประชาชนให้ทราบนะคะว่า นัทเองก็ได้ยุติความสัมพันธ์กับคุณอั้มแล้วค่ะ หมายถึงว่ายุติความสัมพันธ์ในความเป็นสามีภรรยา ก็มีความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”

 

มันเกิดอะไรขึ้น ?
“ขออนุญาตไม่ตอบในเรื่องของเหตุผลสาเหตุนะคะ เพราะนัทคิดว่าการใช้ชีวิตคู่มันมีหลากหลายปัจจัยจริงๆ เราได้พูดคุยตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รับรู้กันทั้งสองฝ่าย แล้วก็จบกันด้วยดี ด้วยการพูดคุยที่โอเค ก็ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดว่าอะไรอย่างไร ขอเป็นเรื่องของคนสองคนที่คุยกันเรียบร้อยแล้ว”

เรื่องราวมันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ในการใช้เวลาตัดสินใจจนมาถึงวันนี้ ?
“ก็สักพักแล้วค่ะ”

 

“ความรู้สึกของแฟนๆ ที่เขามีต่อนัท เอาจริงๆ สิ่งที่นัทเห็นด้วยตาตัวเอง ก็คือเห็นถึงความรัก ความห่วงใยที่ทุกๆ คนมีให้นัทจริงๆ ส่วนใหญ่จะเป็นคอมเมนต์และความรู้สึกดีๆ ที่มีให้เยอะมากๆ นัทต้องขอบคุณจริงๆ ค่ะ”

ตามข่าวลือที่เกิดขึ้นมันมีพาดพิงไปถึงบุคคลที่สามด้วย ?
“ที่โยงถึงบุคคลที่สามเนี่ย อันนี้มันนอกเหนือความควบคุมของนัทจริงๆ ก็ต้องทำความเข้าใจ ตัวนัทเองค่อนข้างเข้าใจในทุกสถานการณ์เหตุการณ์ ก็เลยคิดว่ามันเป็นธรรมดาที่คนจะตีความกันไป แต่ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดนะคะ เอาเป็นว่านัทกับคุณอั้มได้คุยตกลงกันเรียบร้อยแล้วค่ะ เป็นเพื่อนกันค่ะ”

ก่อนหน้านี้ อั้ม บอกว่ายังไม่ได้เลิก ?
“อันนี้นัทก็ไม่ทราบจริงๆ เอาเป็นว่ามันมีการพูดคุยแล้วจริงๆ ค่ะ”

ขออนุญาตถามเรื่องการหย่า ได้มีการจดทะเบียนสมรสกันมั้ย ?
“ประเด็นที่บอกว่าเรื่องหย่า คือนัทก็ไม่ได้จดทะเบียนค่ะ ก็เลยไม่ได้หย่า ไม่ได้หย่าจริงค่ะ เพราะว่าไม่ได้จดค่ะ”

เรื่องแหวน ?
“สำหรับแหวนนะคะ จริงๆ วงนี้(ที่ใส่มาวันนี้)เป็นแหวนของคุณแม่ แหวนแต่งงานของคุณพ่อคุณแม่ คือวงข้างใน แล้ววงข้างนอกเป็นของนัทเอง ซึ่งเป็นแหวนที่มันคับกว่า ซื้อตอนอายุ 20 แหวนวงแรกที่ตัวเองซื้อ แหวนแต่งงานของคุณพ่อคุณแม่มันหลวม เราก็เลยใส่แหวนที่เป็นไซซ์คับลงมาหน่อย กลัวหลุด ก็เลยใส่เป็น 3 วง พ่อแม่ลูกอยู่ในนิ้ว มันเป็นแหวนที่มีความทรงจำที่ดี คุณแม่กับคุณพ่อแต่งงานตอนอายุ 27 มันน่าจะ 50 ปีขึ้นไปสำหรับแหวนวงนี้ มันเห็นอยู่ในตู้เซฟนานแล้ว เราอยากเอามาใส่จังเลย พอเอามาใส่ปุ๊บก็ใส่ได้หลวมนิดหนึ่ง ก็เลยเอาแหวนตัวเองมาใส่ทับ แค่นั้นเองค่ะ ส่วนวงนี้เป็นแหวนแต่งงานของคุณปู่คุณย่า มันประจวบเหมาะ นัทว่ามันมีสิ่งดีๆ ที่อยู่กับตัวเราเยอะแยะมากมาย แล้วพอดีเรามาเห็นมันนึกขึ้นแล้วมีความอบอุ่นใจ ก็เลยใส่”

ช่วงที่ผ่านมาหลายคนเป็นห่วงความรู้สึกเรา ที่โพสต์ภาพขาวดำ ?
“สำหรับเรื่องรูปภาพ ที่ลงมีเป็นภาพขาวดำบ้าง หรือว่าข้อความ จริงๆ แล้วรูปพวกขาวดำมันเป็นรูปที่นัทชอบอยู่แล้ว นัทถ่ายไว้ นัทชอบเพราะมันเป็นภาพอาร์ต เราไม่ค่อยลงรูปขาวดำสักเท่าไหร่ พอเราได้ไปเที่ยวต่างประเทศแล้วเราได้ถ่ายอะไรที่มันเป็นภาพมุมมองแปลกๆ บ้าง ที่ไม่ใช่แบบเดิมที่เราลง จริงๆ มันไม่มีนัยยะอะไรทั้งสิ้น แต่ว่ามันอาจจะอยู่ในช่วงไทม์มิ่งนั้นพอดี ยืนยันว่าไม่มีอะไรที่เศร้า เราแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ เราอยากใช้ชีวิตตามปกติ แม้แต่ข้อความนัทมองว่านัทเป็นคนที่เขียนอะไรที่ค่อนข้างมีอะไรให้คนคิดแล้วเตือนตัวเองด้วย มันเป็นเหมือนปรัชญา ความคิด มุมมอง ทัศนคติ ซึ่งนัทลงของนัทมาหลายปีแล้ว ถ้าใครไปย้อนดู เราลงแบบนี้มาเป็น 10 ปีแล้ว”

“นัทมองแบบนี้ การที่เราได้อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับความรู้สึกที่เป็นพลังงานดีๆ พลังงานบวก อยากให้อยู่กับลมหายใจ เราอย่าประมาทกับชีวิต มันเป็นเรื่องการมองโลกที่ดี ก็เลยแค่เขียนไปเท่านั้นเอง ไม่คิดว่าจะตีความหมายถึงว่าตรงนี้ แต่ก็ต้องขอขอบคุณจริงๆ เพราะว่าหลายๆ คนให้กำลังใจ เป็นห่วง”

“สำหรับความรู้สึก จิตใจตอนนี้ มีความสุขมากๆ มีความสุขดี สุขทั้งกาย สุขทั้งใจ คือนัทโชคดี นัทเป็นคนที่โชคดีที่มีคนรอบข้างที่ดี นัทเป็นคนที่ค่อนข้างมองอะไรง่ายๆ บวกๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าโลกสวยนะคะ นัทว่าทุกคนมีทั้งความสุข ความทุกข์ในชีวิตอยู่แล้ว แต่นัทเลือกที่จะมองในสิ่งที่ดีๆ อยู่ในรอบตัวนัทมากมาย เพราะฉะนั้นมันทำให้ตัวนัทเดินได้อย่างมีความสุขแบบจริงๆ”

การตัดสินใจมันยากมั้ย ?
“คือ 15 ปี คบกัน 5 ปี แล้วก็แต่งงาน 10 ปี เราก็ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน แล้วก็มีทั้งความสุข มีทั้งความทุกข์ มีทั้งสิ่งที่ต้องฝ่าฝันไปด้วยกัน แต่ว่ามันไม่มีอะไรผิดเลยค่ะ ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งมันจะเกิดการที่เราจะต้องแยกย้ายกันเดินในสิ่งที่มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ เพราะฉะนั้นนัทอยากให้มันเป็นเรื่องของความเข้าใจว่านัทมีความสุข นัทขอบคุณกับทุกสิ่งที่มันเกิดขึ้น ไม่มีอะไรที่ไม่ดีเลยค่ะ (ยิ้ม)”

การแยกย้ายกันแล้วมันมีน้ำตามั้ย ?
“มีน้ำตามั้ยหรอ นัทว่าน้ำตามันมาหลายวาระโอกาส นัทบอกแล้วว่าชีวิตคู่มันไม่ได้ยิ้มอย่างเดียว มันต้องมีมุมที่ไม่ยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ แต่ว่าวันนี้นัทไม่ได้มีน้ำตาแบบที่เป็นเรื่องอะไรที่ไม่ดีแล้ว มันเป็นเรื่องที่มีความหมายในทุกอย่าง เพราะฉะนั้นก็เลยไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องเครียดอะไร นัทมองว่าตอนนี้นัทมีความสุข อยู่กับปัจจุบันจริงๆ ค่ะ”

หลังจากโสดแล้ววางแผนชีวิตต่อไปยังไง ?
“สำหรับการวางแผนชีวิต ก็ใช้ชีวิตตามปกติเลยค่ะ ตามความเป็นจริง เราใช้ชีวิตให้มันเป็นเรื่องง่ายๆ สบายๆ ไม่ซับซ้อน แล้วก็มีความสุขกับการที่เราได้ใช้ชีวิตในการทำงาน อยู่กับคนที่เรารัก เรามีคนที่เรารักตั้งเยอะแยะ มีหน้าที่ทำงาน นัทก็รู้สึกว่ายังมีอะไรให้เราทำตั้งเยอะแยะ ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลอะไร ใช้ชีวิตตามปกติค่ะ”

สุขภาพเป็นอย่างไรบ้าง หลายคนเป็นห่วง ?
“สำหรับสุขภาพ นัทเป็นเนื้องอกค่อนข้างใหญ่ แต่ว่าไม่อันตรายอะไร เขาก็ยังอยู่กับเรานี่แหละ เพราะว่านัทค่อนข้างเป็นคนผอม มันก็เลยจะเห็นชัดหน่อย เพราะมันอยู่ท้องน้อยข้างล่าง ก็ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องผ่า ก็ต้องขอขอบคุณที่หลายๆ ท่านเป็นห่วงอยากจะให้เอาออก แต่ว่าพอดีมันมีโพรเซสของนัทที่จะต้องมอนิเตอร์ต่อว่าถ้าเกิดอีกสักระยะหนึ่งที่เราหมดฮอร์โมนว้าวุ่น(หัวเราะ) พอถึงเวลานั้นถ้าเราจะเอาเขาออก เขายังใหญ่อยู่ก็เอาออกได้ จะค่อนข้างปลอดภัย ถ้าเกิดช่วงนี้ยังใช้ชีวิตอยู่ได้ ยังไม่มีปัญหาอะไร ก็อยู่กับน้องเขาไปก่อน แล้วถึงเวลาเขาก็จะเล็กไปเองตามวันและเวลา ตามวัย”

“นัทเคยผ่านการทำ ivf ทำน้องแบบเด็กหลอดแก้ว 4 รอบ มันก็เป็นฮอร์โมนที่เราใช้ มันก็เป็นการกระตุ้นอย่างหนึ่งให้มันเจริญเจริญเติบโตขึ้น นัทกลับมารับประทานอาหารที่เป็นพืชผักมากขึ้น ปรับมาได้ 2 ปีกว่าแล้ว ที่เห็นเราลีนๆ เพราะเราทานดี ทานไม่เนื้อสัตว์มาก พอเราทานดี ก็เหลือเรื่องนอน ปรับเรื่องนอนให้เร็วขึ้น แล้วเรามีสุขภาพจิตที่ดี แข็งแรงทั้งกายและใจ นัทเชื่อว่ามันผ่านไปได้”

 

 

ณ วันนี้ยังเชื่อในความรักมั้ย มีมุมมองกับความรักยังไงบ้าง ?
“มองความรักยังไง สำหรับนัทมองว่าความรักเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ ทุกคนควรจะมีความรักค่ะ ความรักอยู่กับเราตลอดเวลา นั่นคือตัวเราเอง เมื่อไหร่ที่เรารักตัวเอง เราสามารถที่จะรักคนอื่นได้ แล้วเราก็รู้ว่า จริงๆ เรามีสิ่งที่ดีๆ อยู่รอบตัวเราเยอะมาก นั่นคือความรักความปรารถนาดี อยู่ที่เราเห็นอยู่ที่เราจะมองหรือเปล่า บางทีสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่าความรัก มันอยู่ใกล้ตัวเรามากๆ”

“แล้ววันนี้นัทอยากจะบอกว่านัทขอขอบคุณทุก ๆ คน ทุกกำลังใจ น้องๆ พี่ๆ เพื่อนๆ นักข่าว แล้วก็ประชาชนทุกๆ คนที่ให้ความรักนัท เพื่อนสนิท เพื่อนที่รู้จัก และคนที่ไม่รู้จัก แต่เขามีความรักให้เรา นั่นแหละค่ะความรักมันส่งถึงนัท แล้วมันทำให้ความรักมันขับเคลื่อนไปด้วยพลังงานที่ดีๆ ก็เลยอยากจะขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ ทุกคอมเมนต์ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นทุกอย่างดีเสมอค่ะ ขอบคุณมากๆ จริงๆ ค่ะ รักทุกคนเช่นกันนะคะ”

 

 

 

 

 

ขอบคุณแหล่งที่มา :  khaosod