บันเทิง
- ตอบตอบคำถามอย่างคนตื่นธรรม! กับ “อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม” คนเราเกิดมาทำไม ตั้งคำถามแบบนี้ถือว่าผิด ถ้าตายเลยตอนนี้เพื่อดับทุกข์ได้ไหม? พระพุทธเจ้าบอกว่าเลวที่สุดในความผิดทั้งหมด การทำลายชีวิตตัวเองมีแต่หนีเสือปะจระเข้ ตกนรกนะ รับไหวหรือเปล่า ฟังพร้อมกันในรายการ WOODY FM
ช่วงนี้เป็นกระแสคนให้ความสนใจเยอะมาก ได้เห็นปรากฎการณ์ของธรรมะอะไรบ้าง ?
อาจารย์เบียร์ : คนเริ่มเข้าใจในคำสอนพระพุทธเจ้ามากขึ้น ในเรื่องของการมีความเห็นผิด แล้วเปลี่ยนจากความเห็นผิดเป็นความถูกต้องมากขึ้น ที่เห็นชัดเจนคือเรื่องนี้
ถ้ามีคนมาบอกอาจารย์ว่าฉันเห็นว่าฉันได้ดีจากการกราบไหว้เทพผสมไปด้วยสามารถทำได้ไหม ?
อาจารย์เบียร์ : จริงๆ จะทำได้มันก็ไม่เป็นอะไร ไม่ได้ผิดอะไรแต่อาจารย์แค่บอกหลักเหตุผลว่าอะไรได้อะไรไม่ได้แค่นั้นเอง ดังนั้นในสิ่งที่เป็นความเชื่อของเขา เขาเข้าใจเอาเองว่าการที่ไปอ้อนวอนขอร้องเทพจะสามารถทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองได้ คำถามคือทำไมคนที่เกิดในต่างประเทศเขาไม่มีการอ้อนวอนขอร้องเทพเทวาแบบเรา แต่ทำไมเขาถึงประสบความสำเร็จได้ โดยการกระทำลงมือตามหลักเหตุผลของเขาเอง
ฉะนั้นประเทศเราเป็นเรื่องของเทวนิยมชมชอบในเรื่องของเทพเทวา โดนถูกปลูกฝังมา มันมีคอนเทนส์กระแสสังคมในโลกปัจจุบันมากในเรื่องของความเชื่อทำให้คนเกิดความกลัว มนุษย์ทุกคนเมื่อมีความกลัวเข้าจู่โจมจึงหาที่พึ่ง โดยมากจะหาที่พึ่งผิดทำให้ชีวิตเป็นไปตามกระแสของความเห็นผิดเหล่านั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนๆ หนึ่งได้ยินมาแบบนี้ปลูกฝังมากตั้งแต่วัยเด็กจนโตมาก็มีคอนเทนส์แบบนี้เต็มประเทศไปหมด
ความจริงคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ได้หาฟังยาก แต่การฟังคอนเทนส์หมอดู พิธีกรรม หรือเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวกับความเชื่อที่ไม่ใช่หลักสัจจะความจริงมันเต็มไปหมด ก็ไม่แปลกที่คนจะเอียงไปเสพย์ฝั่งนี้ ถึงแม้จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตก็ตาม ทั้งๆที่ความสำเร็จในชีวิตของเขาเกิดจากเหตุปัจจัยจากการกระทำของตัวเอง ความรู้ความสามารถของตัวเอง
ในการเวียนไหว้ตายเกิด ในวันที่เราไปถึงจุดที่จะดับทุกอย่างกลายเป็นทุกสรรพสิ่ง มันติดค้างในหัวว่าแล้วไงต่อ ?
อาจารย์เบียร์ : อยากจะพ้นทุกข์ แต่ก็ยังยินดีกับการเกิดไปเรื่อยๆ ค่อยๆขัดเกลาตัวเองไปเรื่อยๆ โดยมากในโลกเราถ้ายังติดเรื่องของการเสพย์กาม คำนี้ไม่ใช่เรื่องของเพศสัมพันธ์ คือการอยากได้ อยากมี อยากเป็น อยากมีบ้าน มีรถ อยากเกิดแบบนี้ต่อไปเพราะรู้สึกการมีชีวิตในฐานะของการเป็นคนมันมีความสุข แต่การเกิดต่อๆไปมันไม่ได้ยุติแค่การเกิดเป็นคน 5 คติทางไปสัตว์ คือ นรก เดรัจฉาน เปรต มนุษย์ เทวดา คนที่ยังอยากเกิดอยู่ก็จะยึดแค่เกิดเป็นมนุษย์หรือเทวดา แต่ความเป็นจริงเราลืมไปว่าเราอาจจะเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็ได้หรือนรก
พระพุทธเจ้าบอกว่าถ้าใครเห็นโทษตรงนี้จะไม่อยากเกิดอีกแล้ว แล้วยากมากที่โอกาสที่เราจะกลับมาเกิดเป็นคน ซึ่งคนจะมักเข้าใจว่าฉันตายแล้วฉันเกิดก็น่าจะมาเกิดบนโลกมนุษย์ได้ใช้ชีวิตเหมือนเดิมแต่ความเป็นจริงคือไม่ใช่ เวลาเราติดสภาวะตรงนี้เวลาเราวิปัสนา เวลาภาวนาไปก็จะไปติดตรงนี้ก็จะรู้สึกว่ายังไงต่อ ชีวิตข้างหน้าผ่านไปแล้วจะมีโอกาสกลับมามีความสุขแบบปัจจุบันไหม
จะหาเงินได้มากเเหมือนปัจจุบันไหม เวลามีความคิดปรุงแต่งแบบนี้เกิดขึ้น บวกกับเราอยากพ้นทุกข์ด้วย แต่ก็อยากมีความสุขในการเกิดต่อไปด้วย พระพทุธเจ้าบอกว่าการใช้ชีวิตของคนในโลกล้านแล้วแต่ไหลลงสู่ความทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้น แม้จะสุขก็ต้องไหลรวมสู่ความทุกข์ ในโลกนี้ไม่มีอะไรสุขจริงทุกอย่างเดินสู่ความเสื่อม เดินสู่ความทุกข์ เดินสู่การสูญเสีย พลัดพรากผิดหวังจากของอันเป็นที่รักซ้ำแล้วซ้ำอีก
เตรียมพร้อมการหลุดพ้น ?
อาจารย์เบียร์ : ถ้าไปรอให้หลุดพ้นตอนนี้ที่เราจะไป มันก็ไม่สามารถเตรียมตัวเองให้พิจารณาเห็นได้ ในขณะที่เรามีชีวิตอยู่ยังไม่สามารถพิจารณาให้ตัวเองยอมรับได้เลยว่าจะไปแล้วมันจะมีความสุขทุกข์ยังไง หรือจะปล่อยวางอะไรได้ พระพุทธบอกว่าการที่มองเห็นโทษไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเห็นยาก จะเห็นว่าตัวเองป่วยทั้งๆที่ตัวเองแข็งแรงอยู่ก็เห็นไม่ได้อีกเหมือนกัน พระพุทธเจ้าจึงต้องสอนให้เราค่อยๆเห็นไปตามลำดับด้วยการพิจารณา ดังนั้นความคิดสำคัญที่สุด ถ้าเรามัวแต่ไปรอตายมันไม่ทัน เราต้องมีสติสัมปชัญญะรู้เนื้อรู้ตัวกับปัจจุบันในทุกขณะจิต เริ่มพิจารณาตัวเองให้เห็นตามความเป็นจริงว่าไม่มีอะไรเป็นตัวตนจริงของเราเลย มีแต่ตัณหาคือความอยากของเราไปยึดว่าสิ่งนั้นเป็นของฉัน แต่ความจริงไม่มีอะไรเป็นของฉันเลยเพราะมันจะเดินสู่ความเสื่อม เลยทำให้เราเกิดความทุกข์ เพราะเราไหลไปตามกระแสสิ่งเหล่านี้
คนเราเกิดมาทำไม คำถามนี้จะโดนถามบ่อยมาก ?
อาจารย์เบียร์ : เป็นคำถามที่ถามผิด ในสมัยพุทธกาลคำถามนี้ถามพระพุทธเจ้าบ่อยมากว่าเกิดมาทำไม พระพุทธเจ้าบอกว่าตั้งคำถามไม่ถูกต้อง คำถามที่ถูกต้องอะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัยในการเกิดของเราตังหาก ทุกคนจะมีเหตุปัจจัยในการเกิดเหมือนกันหมด คือตัณหาความอยาก อยากได้ อยากมี อยากเป็น เป็นตัวเริ่มต้น แต่ตัวสูงที่สุดคืออวิชา ความไม่รู้ทั้งหลายในหลักของอริยสัจ 4 นั่นแหล่ะเป็นจุดเริ่มต้นของการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ของคนในโลก ของสัตว์ในโลกทั้งหลาย เมื่อเกิดความความไม่รู้ขึ้นมาจึงเกิดความนึกคิดปรุงแต่ง เมื่อมีการเกิดปรากฎย่อมมีการเสื่อมตามมาเสมอ แล้วต้องมีความทุกข์ร้อนใจในสิ่งนั้นตามมา เมื่อเรายึดมั่นในสิ่งใดก็ทุกข์ในสิ่งนั้น ก็จะเวียนอยู่อย่างนี้ เหมือนเราอยากเกิด อยากมีชีวิตขึ้นมาอีก จึงหลุดจากการเกิดซ้ำๆแบบนี้ไม่ได้ เพราะมีตัณหาเป็นเชื้อคือความอยาก พระพุทธเจ้าจึงบอกว่าเพราะสิ้นความอยาก จึงสิ้นความทุกข์ทุกอย่าง
การปลดปล่อยความทุกข์แบบง่าย ?
อาจารย์เบียร์ : วิธีเดียวคือยอมรับความจริง อาจารย์จะสอนให้คนยอมรับความจริงเสมอ อย่างบางทีมีคนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เขาบอกว่าอยากจะฆ่าตัวตายแล้ว ขอคุยกับอาจารย์ด่วน ก็จะเริ่มสอนเขาแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ยอมรับความเป็นจริงได้ไหมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากการกระทำของตัวเอง ถ้ายอมรับได้ตัวเราเองก็จะสามารถพ้นจากความทุกข์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ถ้ายอมรับได้เขาก็จะเข้าใจในลำดับต่อไปได้ ทุกอย่างเกิดจากเหตุจากการกระทำของเราเอง ไปเศร้าใจกับมันทำไม คิดไปในทางที่ดีสิ อย่าไปคิดในทางที่ไม่ดี เวลามีความทุกข์ทำไมต้องคิดซ้ำเติมตัวเอง ลองคิดไปว่าหากเราผ่านเหตุปัจจัยนี้ไปได้ชีวิตเราจะเจริญรุ่งเรืองมากขนาดไหน เอาสิ่งนี้เป็นบทเรียนว่าต่อไปนี้เราจะไม่กลับไปทำแบบนี้อีก ผลของการกระทำแบบนี้จะไม่ย้อนกลับมาหาเราแล้ว อยู่กับปัจจุบันขณะ ตั้งสติ กลับไปดูหัวใจตัวเราเอง หยุดคิดให้ได้ก่อน เคลียร์ความเห็นผิดให้หมด ถ้ายอมรับได้ตัวคุณเองจะมีความสุขที่สุด ไม่มีใครจะมีความสุขที่สุดเท่ากับเรายอมรับตามความเป็นจริงในการกระทำของตัวเอง
ถ้าสวนกลับไปว่าตายเลยตอนนี้เพื่อจะดับทุกอย่างให้จบสิ้นอาจารย์จะบอกว่า ?
อาจารย์เบียร์ : แน่ใจนะว่าจบสิ้น จะบอกให้นะว่าการตายตอนนี้จะหนีเสือปะจระเข้ รู้ไหมว่าการตายจากการทำลายชีวิตตัวเองจะนักหนาสาหัสแค่ไหนกับโทษที่ได้รับ นรกนะรับไหวไหม ความทุกข์ตอนนี้แค่ร้องไห้ ความทุกข์ในนรกหอกทิ่มตลอดวันตลอดคืนไม่จบไม่สิ้นเอาอะไรเลือกเอา ตอนนี้มีความทุกข์แค่นี้ยังจะเป็นจะตาย ทุกข์น้ำตาไหลกับนรกมันเทียบกันไม่ได้เลยนะ ถ้ารับไม่ได้ตั้งสติแล้วเราจะมีความสุขในปัจจุบันได้ เพราะการฆ่าตัวตายเป็นความเศร้าหมอง พระพุทธเจ้าบอกว่าจิตสุดท้ายก่อนตายเป็นตัวพาไปเกิด ถ้าตลอดชีวิตทำเลวทำชั่วมากกว่าความดี จิตสุดท้ายก่อนตายในการคิดกุศลน้อยมากนำไปสู่นรก เดรัจฉานและเปรตวิสัย แต่ตลอดชีวิตทำดีมาตลอดแต่จิตสุดท้ายก่อนตายดันไปคิดเลวคิดชั่วก็นำไปสู่นรกกำเนิดเดรัจฉานได้
สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody,
Youtube: Woody
ขอบคุณแหล่งที่มา : sanook