บันเทิง

- ตอบ
โพสต์ต้นฉบับ
ชื่อ: โตโน่ ภาคิน ทำพิธีแช่ว่านเพราะอยากศึกษาตัวละคร ปัดตอบช่วยอยู่ยงคงกระพัน
โตโน่ ภาคิน ทำพิธีแช่ว่านเพราะอยากศึกษาตัวละคร ปัดตอบช่วยอยู่ยงคงกระพัน

หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีรูปของนักแสดงหนุ่ม โตโน่ ภาคิน ทำพิธีแช่ว่าน พิธีกรรมโบราณที่สืบทอดกันมานับพันปี จนทำเอาหลายคนฮือฮาไม่น้อยว่าเป็นภาพในละคร หรือการทำพิธีจริงๆ ล่าสุดได้เจอโตโน่ก็ไม่พลาดที่จะสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวได้เฉลยว่า 

- โตโน่ต้องการศึกษาตัวละครเสือดำ ต้องการเข้าถึงคนยุคนั้นให้มากที่สุด ต้องการสร้างตัวละคร เพราะต้องถ่ายหนังช่วงเดือน พ.ย. จึงได้ทำพิธีนี้

- พอเจอกับพระอาจารย์ และเจอพิธี รับรู้ได้ว่าตัวเองจะไม่มีโอกาสเจอกับอะไรแบบนี้อีกแล้วในชีวิตนี้ เพราะแต่ละคนเป็นตัวจริง และวิธีแบบนี้ไม่ได้มีมาหลาย 10 ปี จึงได้ทำพิธีจริงๆ มากกว่าแค่ศึกษา

- ทำพิธีดังกล่าว 7 วัน แช่ 9 รอบ รอบละชั่วโมงกว่าๆ วันนึงแช่ 3 รอบ แช่จริงๆ แค่ 3-4 วัน

- ว่านที่หามามีกว่า 200 ชนิด เขาเรียกว่าว่าน 108 อีก 5-6 ปีว่านบางชนิดก็อาจจะไม่มีแล้ว ตามสภาพอากาศและยาฆ่าแมลง

- ตอนที่ทำพิธี ก็ทำสมาธิ การลงไปในเรือที่มีสมุนไพร มีน้ำร้อนมาก มีน้ำเย็นมาก เพื่อให้เราฝึกทำสมาธิ และในแต่ละรอบก็จะมีบทสวดในแต่ละสาขาที่สอน

- เรื่องข้อห้ามว่าห้ามทำอะไรบ้างหลังจากทำพิธี แต่ไม่อยากให้โฟกัสเรื่องนั้น ถ้าอยากรักษาก็ต้องทำเอาไว้ให้ได้

- เรื่องการแช่ว่านนี้เป็นความรู้ของคนโบราณในเรื่องสมุนไพร สมัยก่อนเวลาไปออกรบ ไม่มีการผ่าตัด คนโบราณก็ใช้วิธีนี้

- เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลในด้านเรื่องไสยเวท

- การแช่ว่านจะช่วยให้คงกระพันหรือไม่ก็แล้วแต่ แต่เป็นความตั้งใจของคนแช่ โตโน่ไม่ขอลงลึก ขอเก็บเอาไว้คนเดียว แต่ที่ตนทำเพราะผมอยากสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบต่อกันมาเป็นพันปีมันจะผิดเพี้ยนและหายไป การได้ไปทำก็เป็นข่าวและมีคนสนใจ คนเริ่มสนใจมากขึ้น

- เพราะเป็นคนชอบเรียนรู้ประวัติศาสตร์ พอได้รู้และศึกษาประวัติเรื่องพวกนี้แล้วรู้สึกสนุก

- หลังจากที่มีข่าวออกมา โตโน่ดีใจที่คนให้ความสนใจพิธีนี้มากขึ้น แต่ก็ต้องดูให้ดี อย่าไปโดนหลอก เดี๋ยวจะติดเชื้อได้ หรือเป็นโรคผิวหนัง ต้องศึกษาและดูให้ดี ซึ่งตนศึกษามาดีแล้ว

- ไม่ได้มาสายมู และยังยืนยันว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ต่อให้เดินสายมู แต่เป็นคนชั่ว เอาเปรียบคนอื่น ไม่รักษาสัจจะ ไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนคุ้มครองแน่นอน

 

 

 

 

 

ขอบคุณแหล่งที่มา :  thairath