บันเทิง
- ตอบการตัดสินใจเป็นนักแสดงอิสระ นักแสดงหนุ่ม ‘บอย’ ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ บอกไม่มีเหตุผลอะไรซับซ้อน แค่เพราะอายุถึงระดับนึง อยากมีเวลาทำธุรกิจเพื่อรองรับอนาคตตัวเอง และอยากทำอะไรใหม่ๆ
✦ อัพเดตชีวิตตอนนี้หน่อย?
บอย – “ช่วงนี้ตารางงานยุ่งมาก แต่ก่อนอาจจะยุ่งถ่ายละคร 2-3 เรื่อง ตอนนี้ไปยุ่งอย่างอื่นแทน ทำธุรกิจ ทำแฟนมีต ดูแลงานที่บ้าน และกำลังกลับไปยุ่งถ่ายละครใหม่อีกแล้ว เรื่อง TIME หมุนเวลาตาย ของค่าย CHANGE 2561 ตอนนี้คือเป็นนักแสดงอิสระ แล้วก่อนหน้านี้ที่ยุ่งมากเพราะเพิ่งถ่ายหนังมา และมีซีรีส์ของทางเน็ตฟลิกซ์”
✦ อะไรที่ทำให้ตัดสินใจรับเล่น “TIME หมุนเวลาตาย” เรื่องแรก หลังหมดสัญญาช่อง 3?
บอย – “ความจริงแค่ตัวบท คือบทของตัวละคร เรื่องย่อที่ทำมามันก็น่าสนใจอยู่แล้ว เพราะพล็อตมันอินเตอร์มากๆ และด้วยตัวคาแร็กเตอร์ของผมเองด้วย เป็นบทที่ใช้คำว่าเราไม่สามารถเจอบทแบบนี้ได้บ่อยๆ และถ้าเจอมันต้องคว้าไว้ครับ”
✦ ทำไมตัดสินใจอยากเป็นนักแสดงอิสระ?
บอย – “จริงๆ ไม่ได้มีเหตุผลอะไรซับซ้อน แค่อายุถึงระดับหนึ่งอยากมีเวลาในการทำธุรกิจของตัวเอง แล้วก็อยากไปทำอะไรใหม่ๆ เราเป็นนักแสดงอิสระก็จริง แต่งานกับทางช่อง 3 ที่เราเติบโตมาก็ยังยินดีที่จะกลับไปจอยโปรเจ็กต์ด้วยกันเสมอ”
✦ หลายคนมองว่าอาชีพนักแสดงมีอายุของมัน?
บอย – “แน่นอน ยิ่งพอถึงอายุในวัยนี้ เราผ่านหลายสเต็ปมาแล้วยิ่งทำให้เห็นอะไรชัดเจนขึ้น ไม่มีใครอยู่ยั้งยืนยง จะมีขึ้นๆ ลงๆ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปมันเป็นเรื่องของโพสิชั่นมากกว่า ตอนนี้เราอายุ 40 จะไปเล่นละครรักวัยใสกุ๊กกิ๊กก็ยังไงอยู่ ก็ต้องเปลี่ยนรูปแบบไป วันนี้ผมยังพอเป็นพระเอกได้ แต่ใครจะไปเป็นพระเอกได้ถึงอายุ 50 เราก็ต้องเปลี่ยนโพสิชั่นตัวเองไปเรื่อยๆ เราเข้าใจในจุดนี้”
✦ เลยทำให้วางแผนทำธุรกิจแต่เนิ่นๆ เพื่อรองรับอนาคตตัวเอง?
บอย – “ใช่ครับ อย่างที่ผมทำธุรกิจร้านอาหารกับเพื่อนๆ อันนี้เป็นรายได้ส่วนตัวกระจุ๊กกระจิ๊กไปซื้อของไร้สาระที่โดนแม่ด่าอยู่ทุกวันนี้ (หัวเราะ) จนมาเริ่มทำธุรกิจกับที่บ้านเป็นของตัวเองเพราะเรารู้อยู่แล้วว่าวันหนึ่งเราอาจจะไม่ได้อยู่ในจุดตรงนี้แล้ว รายได้เราอาจจะลดลง ฉะนั้นก็ต้องมีอะไรที่มั่นคงคอยรองรับ หรือต่อให้ ณ วันนั้นธุรกิจที่เราเริ่มทำอาจจะไม่ได้อยู่แล้ว แต่เรามีประสบการณ์ความรู้ที่สามารถไปต่อได้”
✦ ตอนนี้แบ่งชีวิตยังไงระหว่างงานในวงการกับการทำธุรกิจ?
บอย – “ผมไม่เคยแบ่งเลย ผมก็แค่รันตามสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะไม่รู้จะแบ่งยังไง แค่อะไรที่รู้ว่าจะยุ่งมากแน่ๆ ที่เป็นงานส่วนตัวก็แค่ผัดมันออกไปก่อน เช่นก่อนหน้านี้ผมจะทำสตูดิโอภาพนิ่ง แต่ดันมีแฟนมีตพัคมินยองเข้ามา ถ้างั้นก็หยุดสตูดิโอภาพนิ่งไว้ก่อน แล้วพอแฟนมีตจบผมก็กลับไปทำสตูดิโอต่อ ที่เหลือก็เป็นงานถ่ายละคร อีเวนต์ โฆษณา พรีเซ็นเตอร์ วนกันอยู่แค่นี้ ผมทำอย่างนี้มานานแล้วจนชินไง แต่ก่อนยุ่งกว่านี้อีกครับ”
✦ ทำงานหาเงินเหมือนจะไปขอสาว?
บอย – “ยังไม่คิดถึงขั้นนั้นครับ คิดแค่ว่ามีกำลังทำงานหาเงินก็ทำไป เก็บไว้เยอะๆ ไม่รู้แม่เอาไปไว้ไหน (หัวเราะ) ไม่เป็นไร สำหรับผมเป้าหมายคือทำงานหาเงินให้ได้เยอะที่สุด สุดท้ายแล้วมันก็เป็นผลลัพธ์อย่างหนึ่ง คือวันนี้พอแม่อยากจะทำสตูดิโอคุณแม่ อยากทำสตูดิโอบ้านวันใหม่ อยากเปิดสตูดิโอภาพนิ่ง หรืออยากทำอะไรผมมีเงินทุนมาทำ”
✦ แสดงว่ายังไม่ได้วางอนาคตที่เป็นเรื่องส่วนตัวของตัวเอง?
บอย – “แม่ก็พูดว่าเมื่อไหร่จะสร้างบ้านของตัวเองสักที ผมก็แบบยังไม่ได้คิดถึงไง ยังรู้สึกว่าบ้านหลังนี้ก็ยังนอนสบายอยู่”
✦ ความเป็นพี่คนโต คนมองว่าจะต้องเป็นคนที่ออกไปใช้ชีวิตครอบครัวก่อนคนอื่นไหม?
บอย – “อันนั้นรอเป็นจังหวะเวลาดีกว่า ผมไม่ได้เอาอายุตัวเองมาเป็นข้อกำหนดขนาดนั้น แค่รู้สึกว่าตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือใช้ชีวิตให้มีความสุข แล้วทำงานหาเงินไปเผื่อวันหนึ่งอยากทำอะไรก็ทำได้ อันนี้พูดกันตรงๆ เช่นว่าถ้าจะแต่งงานก็มีเงินแต่งงาน จะทำธุรกิจก็มีเงินทำธุรกิจ แต่ยังไม่ได้คิดเป็นหลักว่าจะไปไหนต่อ”
จิรณัฏฐ์ จงปะสพมงคล
ขอบคุณแหล่งที่มา : khaosod