บันเทิง

- ตอบ
โพสต์ต้นฉบับ
ชื่อ: เซ้ง วิชัย เปิดใจครั้งแรก หลังถูกคุกคามแอบถ่าย ตอบสัมพันธ์ ฟรีน สโรชา

 

เซ้ง วิชัย เปิดใจครั้งแรก จับคนร้ายแอบถ่ายคลิปในพื้นที่ส่วนตัวได้แล้ว เผยสัมพันธ์ ฟรีน สโรชา ไม่พัฒนา ขอโฟกัสงานเป็นหลัก ต้องใช้เวลาเยียวยาใจ

จากกรณี ที่ 2 นักแสดงวัยรุ่น “ฟรีน สโรชา จันทร์กิมฮะ” และ “เซ้ง วิชัย แซ่ฟ่าน” พร้อมทีมกฎหมาย ออกมาชี้แจง หลังมือดีปล่อยคลิปขณะใช้เวลาส่วนตัวอยู่ในห้องพักส่วนตัว จนกลายเป็นที่วิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งก่อนหน้านี้ทั่งคู่ยอมรับเป็นตัวเองจริง พร้อมยกมือขอโทษแฟนคลับที่ทำให้ผิดหวัง ซึ่งเหตุการณ์นี้กระทบจิตใจของทั้งคู่เป็นอย่างมาก และได้เอาผิดคนคุกคามและละเมิดสิทธิส่วนบุคคลให้ถึงที่สุด

ล่าสุด วันที่ 27 ก.ย. เซ้ง วิชัย ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก หลังมาร่วมงาน “WeTV Always More 2024” โดยเผยว่าตอนนี้ รู้ตัวคนร้ายแล้ว ส่วนความสัมพันธ์กับ ฟรีน ตนอยากโฟกัสเรื่องงาน

มีอะไรอยากชี้แจงถึงเรื่องคลิปที่เกิดขึ้นอีกไหม?
“จริงๆ ตั้งแต่เรื่องราวที่เกิดขึ้น ผมได้ดำเนินการในเรื่องของคดีความ ได้ปรึกษาเรื่องกฎหมาย โดยที่ทางเราได้เรียกตัวคนร้ายมาสอบปากคำเรียบร้อยแล้วครับ แต่ด้วยความที่กฎหมายระหว่างประเทศที่ยังไม่ครอบคลุมอยู่ ตอนนี้ก็เลยบินกลับประเทศไปวันที่สอบปากคำเสร็จ ซึ่ง ณ ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนของการพูดคุยกับทางตำรวจ แล้วก็ทางทนายในเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ”

สภาพจิตใจเป็นอย่างไรบ้าง
“ณ ตอนนั้นก็แย่กันมากๆ แล้วก็เครียดมากๆ กันทุกฝ่ายเลยครับ ทั้งสภาพจิตใจและความรู้สึก แต่ว่า ณ ตอนนี้ก็พยายามรักษาสภาพจิตใจแล้วก็โฟกัสกับงานที่ได้รับ อย่างตัวของผมเองก็ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังมูฟออนอยู่เรื่อย ๆ ก็รู้สึกโชคดีที่ได้กำลังใจจากคนรอบตัวและครอบครัวของผม”

 

เราได้เข้าไปอ่านคอมเมนต์ที่เขาพูดถึงเรื่องนี้บ้างไหม
“สำหรับผมคิดว่าเป็นคอมเมนต์ที่แย่มากในระดับหนึ่ง รู้สึกว่าในฐานะคน ๆ หนึ่ง ไม่ควรมีใครต้องมาพบเจอเรื่องแบบนี้ครับ”

อยากจัดการกับคอมเมนต์พวกนี้ไหม
“จริงๆ เรื่องคอมเมนต์ ถ้ากระแสโจมตีมันมาลงที่ผมคนเดียว ผมโอเค ผมไหว แต่ ณ ตอนนี้ที่มันเกิดขึ้น คือมันไปถึงคนรอบข้างและคนรอบตัวผมเลย ผมเลยได้มีการคุยกับทนายและตำรวจ เพื่อพิจารณาฟ้อง”

เรื่องที่เกิดขึ้น มันกระทบกับความสัมพันธ์ของเราสองคนไหม
“จริงๆ ตั้งแต่เกิดเรื่อง ก็อย่างที่บอกว่าเครียดกันมากๆ รวมถึงความรู้สึกด้วย ก็พยายามรักษาสภาพจิตใจและพยายามโฟกัสกับงานที่เราทำครับ”

เราฟื้นฟูจิตใจยังไงบ้าง
“ก็มีคนรอบข้าง พี่ๆ แฟนคลับ ที่คอยส่งกำลังใจให้เสมอ รวมถึงครอบครัว ที่เข้าใจในปัญหา และคอยให้กำลังใจ จนผ่านเรื่องทุกอย่างไปได้ครับ”

ความสัมพันธ์ของเราสองคนตอนนี้เป็นอย่างไร
“ในเรื่องของความสัมพันธ์ ก็อย่างที่ผมแจ้งไปเลยครับ ว่าตอนเกิดเรื่องเครียดกันมากๆ แล้วตอนนี้เราก็ได้โฟกัสกับงานที่เราได้รับกันอยู่ และที่กำลังทำอยู่ เราพูดคุยกันในเรื่องของคดีความเป็นหลักเลยครับ ความสัมพันธ์ก็ไม่ได้อัปเดตหรือพัฒนาอะไรเลยครับ (แสดงว่าความสัมพันธ์ไม่ชัดเจน?) ผมคิดว่าหลังจากเกิดเรื่องมา เราได้มานั่งทบทวน กลับมาพูดคุยกันถึงผลกระทบต่างๆ ที่มันเกิดขึ้น แล้วก็อยากที่แจ้งไป ว่าเราสองคนโฟกัสที่การทำงานเป็นหลัก เรื่องความสัมพันธ์เราไม่ได้พูดถึง หรือไปจัดการกับตรงนั้นครับ”

ให้กำลังใจกันและกันยังไงบ้าง
“จริงๆ ก็คอยให้กำลังใจกันเสมอครับ รวมถึงพี่ๆ แฟนคลับที่คอยให้กำลังใจเรา เรารู้สึกว่าทุกๆ ปัญหามันต้องใช้เวลาในการเยียวยาความรู้สึก และ ณ ตอนนี้เราได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ และงานต่างๆ ที่เข้ามา เรารู้สึกว่าเราอยากโฟกัส และอยากพัฒนาตัวเองสำหรับงานที่เราได้รับอยู่ตอนนี้ เลยโฟกัสไปที่การทำงานเป็นหลัก”

พอเกิดเรื่องก็ทำให้เราต้องย้ายสังกัดใหม่ด้วยใช่ไหม
“เรื่องการย้ายสังกัด ผมต้องขอบคุณโอกาสที่เข้ามา มีจังหวะและโอกาสเข้ามาพอดี เลยได้เป็นจังหวะที่เราจะได้พัฒนาตัวเอง คุยกับผู้ใหญ่เรียบร้อย ไม่ได้มาปัญหากันครับ ออกมาด้วยความเรียบร้อยปกติ เรื่องข่าวไม่มีส่วนเลยครับ”

ครั้งนี้ทำให้เราได้บทเรียนยังไงบ้าง
“ผมรู้สึกว่าทำให้เราได้มองโลกในมุมที่กว้างขึ้นกว่าเดิม รู้สึกว่าการกระทำที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล กลับกลายเป็นผลลัพธ์ที่ทำให้สังคมมองผมไปในหลากหลายรูปแบบ ผมอยากจะขอบคุณทุกๆ กำลังใจ และทุกๆ คนที่คอยอยู่ข้าว และยังซัพพอร์ตผลงานของผม ต่อจากนี้ผมจะพิสูจน์ตัวเองเต็มที่ผ่านผลงาน ว่าผมก็เป็นนักแสดงคนหนึ่งที่ทุ่มเทและรักในผลงานของผม อยากให้ทุกคนรอชมผลงานของเราด้วย”

ตอนนี้เราใช้ชีวิตแบบระแวงไหม
“มันอาจจะไม่สามารถลืมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เรารู้สึกว่าเราพยายามก้าวผ่านมันมา เพราะสุดท้ายแล้วยังมีงานและโอกาสที่เข้ามา เราพยายามโฟกัสกับสิ่งที่เราได้รับครับ”

อยากพูดอะไรกับคนที่ยังไม่เข้าใจในตัวเราไหม
“ผมอยากอยากขอโอกาสในฐานะนักแสดงคนหนึ่ง ที่ทุ่มเทและรักในงานที่ผมทำ อยากขอให้เปิดใจแล้วรับชมผลงานที่ผมกำลังทำต่อจากนี้ อยากให้ลองเปิดใจรับฟัง และลองดูผลงานของผม ตอนนี้ผมพร้อมลุยเต็มที่แล้วครับ เพราะโอกาสมาแล้ว มันเป็นสิ่งที่เรารักและเรายังมั่นใจเสมอ ว่าเรายังอยากพัฒนาตัวเอง ในทางที่เรารักและในสายงานนักแสดง”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7888024