บันเทิง
- ตอบ
ได้ประกบซุปตาร์ตัวแม่ อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ในละครเรื่อง “ลมพัดผ่านดาว” ทางช่อง 7HD ถึงจะเจอกันบ่อยจนละครพร้อมลงจอแล้ว พระเอก เข้ม-หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล ก็ยังเขินเกร็ง อั้ม ตลอด เจอในงาน “ลมพัดผ่านดาว Gala Event” ที่สยามพารากอน เผยความรู้สึกเกร็ง

เริ่มจาก ละครก็จะออนแล้ว ถ่ายเสร็จแล้ว เรายังเกร็งอั้มอยู่?
“ใช่ครับ มันก็ห่างกันมา 3 เดือน ไม่ค่อยได้เจอพี่อั้ม แล้วพอมางาน วันนี้ก็ยังประหม่า ก็ยังเกร็งทุกครั้งที่ได้เจอพี่อั้ม ตอนแรกคิดว่าพี่อั้มจะไปต่างประเทศ จะไม่ได้มา ก็เซอร์ไพรส์ผมและแฟนๆด้วย ก่อนหน้านี้ที่จะ ถ่ายทำเป็นเรื่องที่เราไม่ได้คิดมาก่อน และไม่รู้รูปแบบของตัวเองว่าจะเป็นยังไง แต่พอได้มาเจอ พี่อั้มด้วยความน่ารักของพี่อั้ม ด้วยนิสัยของพี่อั้ม เป็นผู้หญิงที่น่ารักมากๆ ทำให้เรารู้สึกประทับใจ และยังคงเกร็งทุกครั้งที่เจอ”
เข้าฉากด้วยกันบ่อยๆไม่ทำให้หายเกร็งเหรอ มีทั้งเลิฟซีนทั้งอะไร?
“ช่วงทำงานน่ะหายครับ เราได้เจอกันเรื่อยๆ เจอกันทุกอาทิตย์มันก็หายไป แต่พอเวลาที่ไม่ค่อยได้เจอกันแล้วกลับมาเจอกันใหม่ มันก็เกร็งๆ”
อั้มก็ชอบหยอกเรา?
“พี่อั้มชอบแกล้งครับ ยิ่งรู้ว่าถ้าเกิดเค้าแกล้งเมื่อไหร่แล้วเข้าทาง ยิ่งยาวเลยครับ”
ซีนหวานๆล่ะ?
“มีเยอะครับ ในเรื่องมีฉากโรแมนติก เยอะมากๆ ถ้าช่วงแรกๆเลยทุกคนได้เจอกับความ รู้สึกที่ให้เป็นตัวละครมากที่สุด สุดท้าย พอคัตเสร็จเราก็พยายามขอโทษ เกือบ จะทุกครั้ง แต่ก่อนจะเข้าฉากพี่อั้ม จะเข้ามาละลายพฤติกรรมก่อน ชวนคุย จะได้ทำงานได้เร็ว เทก เดียวจบ”
ฉากปกติยังเกร็ง ถ้าเป็นเลิฟซีนไม่ยิ่งหนักเหรอ?
“มันก็เกร็ง แต่พยายามเป็นตัวละครให้ได้มากที่สุด และพี่อั้มก็พยายามส่ง”
ไม่กล้าสบตาพี่อั้มเหรอ มองแล้วเห็นอะไร?
“ก็มองนานๆ แล้วมันเขินดีครับ”
ความเขินถ้าเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ให้เท่าไหร่?
“น่าจะเกินร้อยเลยครับ ว้าวุ่นเลย ตัวเหลือกะจิ๊ดเดียว”
ถามถึงคลิปเสียงอ่อย บอกแม่เรื่องซื้อจักรยาน?
“มันเป็นกลยุทธ์ในการของซื้อของจากคุณแม่ครับ เพราะมันเป็นของที่จ่ายเงินเยอะ ก็กลัวแม่จะไม่สบายใจ เพราะเรามีภาระเรื่องค่าบ้านที่ต้องรับผิดชอบอยู่ แล้วพอเราไปปั่นจักรยาน เราชอบเราก็อยากซื้อ ทีนี้ก็ไปซื้อก่อนค่อยมาบอกแม่ การสารภาพก็ไม่ค่อยที่จะบอกตรงๆ เพราะถ้าบอกตรงๆก็อาจจะมีอาการบาดเจ็บทางร่างกายหน่อย อาจจะโดนบิดหู (หัวเราะ) เคยโดนมาแล้ว วันนั้นก็บอกแล้วรีบหนีเลยครับ”
ราคามันแรงอยู่ใช่มั้ย?
“2 แสนปลายๆอยู่ครับ ที่บอกแม่คือราคาหลอก แต่ตอนนี้ก็รู้แล้วครับว่ามันราคานี้ คือของมันต้องมีจริงๆครับ เวลาไปปั่นแล้วเห็นรถของคนอื่นเค้ามี เราจะขับแบบก๊องแก๊งไม่ได้ ไอ้เรามันก็เท่ซะด้วย (หัวเราะ) ตั้งแต่ซื้อมาก็ปั่นเป็นเดือนแล้วครับ ปั่นเกือบทุกวันเลย เพราะช่วงนี้พักกองก็จะว่าง เราก็เริ่มสนใจการปั่นจักรยาน แล้วก็ไตรกีฬา แต่ยังไม่จริงจังถึงขั้นแข่ง เอาสนุกก่อน ให้ร่างกายคุ้นชินก่อน ถ้ามีโอกาสไปแข่งก็จะลองดูครับ ครั้งหนึ่งในชีวิต”

เรียกว่าเห่อมั้ย
“มันเห่อเรื่อยๆครับ เพราะของแต่งมันเยอะ ถ้าเรากำลังจะหมดแพชชัน เราก็จะซื้อของตัวใหม่มา”
แต่คนก็อยากให้เข้มปั่นบ่อยๆ เพราะชุดมันดี?
“ใช่ คนไม่ค่อยดูจักรยาน เอิ่ม มันพูดได้มั้ยพี่ เค้ามาดูได้น้องชายผม ซึ่งจริงๆมันก็ไม่ได้มีเยอะ แต่ของผมมันทางตามยาว ไม่ได้ทางกว้าง มันก็จะเห็นแค่ตามทางยาวครับ อันนี้เล่าให้ฟังนะ ไม่ได้อวด ไม่ได้อวดจริงๆ (หัวเราะ) คือพี่ๆช่างแต่งหน้า เค้าก็บอกว่าเธอ ตั้งแต่วิดีโอนั้นออกมา เพื่อนฉันเค้าก็พยายามที่จะถามเข้ามาว่าของจริงเหรอ ผมก็บอกไป แต่ก็ไม่อยากขายของเยอะมาก”
เรามั่นใจในคุณภาพของเรา?
“ถ้าตามยาวนะ คือบุคลิกอาจจะเอเชีย แต่ว่าน้องชายผมจะไปทางแอฟริกา อันนี้ไม่ได้อวดๆ คือเล่าให้ฟังเฉยๆ”
หลังจากนี้คนจะโฟกัสเราเยอะขึ้นนะ?
“มันเลยจุดนั้นมาแล้ว เพราะทุกคนโฟกัสหมดแล้ว เค้าบอกน้องใส่ชุดปั่นจักรยานบ่อยๆนะพี่ชอบ รู้สึกว่าหุ่นน้องดี แต่เค้าไม่ได้ดูหุ่นผมเลย ก็พยายามจัดระเบียบครับ ให้มันเห็นน้อยที่สุด”
ถือว่าตอบแทนสังคมไป?
“ใช่ครับ เอาอย่างนั้นเลยเหรอ ก็ถือว่าเป็นการตอบแทนพี่ๆทุกคนนะครับ (หัวเราะ)”.